ศาลพิพากษายกฟ้อง ปริญญ์ คดีกระทำอนาจารเยาวชนอายุ 17 ปี และคดีพรากผู้เยาว์

วันที่ 14 ธ.ค. 2566 เวลา 10:30 น.

ศาลอาญานัดพิพากษาคดีของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์  อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคดีที่ 6 จาก 15 คดี คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง กระทำอนาจารเยาวชนอายุ 17 ปี ล่าสุดศาลพิพากษายกฟ้อง วันนี้ (14 ธ.ค. 66) ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายปริญญ์ เป็นจำเลยในความผิดฐาน พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปีเพื่อการอนาจาร โดยอัยการโจทก์ฟ้องระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 เวลากลางวัน จำเลยได้พรากหญิงสาวรายหนึ่งอายุ 17 ปีเศษ ไปจากบิดามารดา หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยหญิงนั้นเต็มใจ ด้วยการที่จำเลยใช้มือขวาจับมือซ้ายลักษณะกุมมือและใช้มือซ้ายจับที่ต้นขาของผู้เสียหาย โดยอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งการกระทำอนาจารดังกล่าว เป็นลักษณะเปิดเผยที่เกิดต่อหน้าธารกำนัน  เหตุเกิดที่แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ คดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากาษยกฟ้อง ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ในคดีข้อหาอนาจารเด็กอายุตั้งแต่ 15 ไม่ถึง 18 ปี ไม่เข้าข่ายความผิด เนื่องจากเกิดเหตุภายในรถตู้ส่วนตัว มีผ้าม่านและฟิล์มดำปิดบัง และมีม่านกั้นระหว่างคนขับรถกับผู้โดยสาร ทำให้คนภายนอกไม่สามารถรับรู้ได้ ส่วนที่มีการถกกระโปรง ลูบไล้แขนและต้นขา ถือเป็นคดีอนาจารที่ยอมความได้ และคดีดังกล่าวมีอายุความแค่ 3 เดือน นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2561  จึงเป็นคดีที่ขาดอายุความ คดีนี้จึงยุติไป       ส่วนคดีพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน18 ปี ไปจากบิดามารดา เพื่อการอนาจาร ข้อเท็จรับฟังได้ว่าจำเลยอาสาจะไปส่งผู้เสียหายจากออฟฟิตไปคอนโด ซึ่งระหว่างที่เดินทางไปไม่มีการออกนอกเส้นทาง แต่เมื่อเกิดพฤติการณ์ที่ลูบไล้ผู้เสียหายระหว่างทางที่ไปภายในรถตู้ส่วนตัว ผู้เสียหายจึงขอลงข้างทางเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าต่อ ซึ่งจำเลยยินยอมให้ลงรถจึงไม่เข้าลักษณะพรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดคามฟ้อง ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง ขณะที่นายปริญญ์ หลังฟังคำพิพากษาได้เดินลงมาจากอาคาร พร้อมกับเดินหนีและปฎิเสธให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะขึ้นรถกลับออกไป