รอหลักฐานยืนยันคนข่มขืน PR สาว จ.ปทุมธานี

วันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 11:01 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ส่วนความคืบหน้า คดีตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปทุมธานี 7 นาย เรียกรับเงินกว่า 300,000 บาท และพาผู้เสียหายไปข่มขืนซ้ำ แลกกับการเปลี่ยนข้อหา เบื้องต้นผู้เสียหายยังไม่ยืนยันว่าคนข่มขืนเป็นตำรวจ แต่คาดว่าเป็นสายของเจ้าหน้าที่    หลังนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาพีอาร์สาว และแฟนหนุ่ม ผู้เสียหายที่ถูกชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จับกุมพร้อมยาเค ก่อนคุมตัวไปรีดเงิน 330,000 บาท และบังคับไปข่มขืนซ้ำ นำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดที่่ชุดจับกุมพาไปกดเงินที่ตู้ ATM ในเขตพื้นที่ อำเภอลาดหลุมแก้ว และปากซอยรังสิต-นครนายกซอย 8 และโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่พาผู้เสียหายไปข่มขืน โดยการฉุดขึ้นบนเตียงนอน แล้วลงมือข่มขืนโดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย พร้อมเรียกเงินเพิ่มอีก 30,000 บาท ส่วนความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้นำภาพตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ถูกกล่าวอ้างมาให้ผู้เสียหายชี้ตัว เบื้องต้นพบว่าทั้งหมดไม่ใช่เป็นคนที่พาไปข่มขืน  แต่เป็นตำรวจที่จับ และนำไปสอบสวนที่กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีเท่านั้น จึงคาดว่าคนที่ก่อเหตุน่าจะเป็นสายของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างนำรูปภาพมาให้ผู้เสียหายยืนยันอีกครั้ง และวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จะนำตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกับคนที่ลงมือข่มขืน และหลังสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จ ก็จะทยอยเรียกตำรวจทั้ง 7 นาย มาสอบปากคำ เพื่อนำมาประกอบกับหลักฐาน ทั้งจากกล้องวงจรปิดบริเวณตู้เอทีเอ็มที่กดเงิน รวมถึงโรงแรม ก็จะสามารถชี้ชัดได้ว่าตำรวจนายได หรือใครเข้าไปมีส่วนกระทำผิดในครั้งนี้ได้ ก่อนสรุปสำนวน แล้วส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. พิจารณาโทษต่อไป แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะ   ส่วนข้อหาที่ตอนแรกตำรวจแจ้งครอบครองยาเค และถูกเปลี่ยนมาเป็นข้อหาครอบครองยาบ้า 2 เม็ด ตำรวจยืนยันจะไม่เปลี่ยนข้อหากลับ ยังคงแจ้งข้อหาเหมือนเดิม ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ว่า เมื่อคืนตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้สอบปากคำ PR สาว ผู้เสียหายตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงมืด และเช้าวันนี้ได้นัดพาผู้เสียหายไปตรวจสภาพร่างกาย ซึ่งในการสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้นำภาพของตำรวจทั้งหมดมาให้ชี้ยืนยัน ซึ่งผู้เสียหายก็สามารถชี้ได้อย่างถูกต้อง แต่ในจำนวนนี้ไม่ปรากฎมีภาพของคนที่ลงมือข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย ซึ่งอ้างว่าอยู่ระหว่างตรวจสอบยืนยันว่าใช่ตำรวจจริงหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าไม่ว่าจะใช่ตำรวจหรือไม่ ก็ควรนำมาให้ผู้เสียหายชี้ยืนยันก่อน ส่วนเรื่องคดีของแฟนหนุ่มผู้เสียหาย ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ แล้วค่อยไปพิสูจน์ความจริงเรื่องยาเสพติดของกลาง ซึ่งเจ้าตัวก็บอกว่า ไม่กังวล และพร้อมรับโทษหากผิดจริง แต่จะไม่ยอมให้แฟนสาวต้องรับเคราะห์ และช่วงบ่ายวันนี้ ตนจะพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรมในคดีนี้ด้วย