"กูรูไพศาล" เปิด จม.ลาออก ลูกชายอดีตรอง ผบ.ตร. ถอดใจคำสั่งแต่งตั้ง
วันที่ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 08:07 น.
กูรูไพศาล เปิด จม.ลาออก ลูกชายอดีตรอง ผบ.ตร. ถอดใจคำสั่งแต่งตั้ง ไม่ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่ ความรู้ ความสามารถ ขอบคุณที่คิดถึงเวลามีคดีสำคัญ-มองข้ามเมื่อแต่งตั้งโยกย้าย วันนี้ (13 ธ.ค.66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ใช้พื้นที่เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดจดหมายลาออกจากราชการตำรวจของลูกชายอดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งขอลาออกจากราชการประท้วงการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เห็นความสำคัญ โดยระบุว่า พ.ต.อ. บดินทร เพ็ญสูตร สารวัตรสอบสวน สน.พระโขนง บุตรชาย พล.ต.อ.สันติ เพ็ญสูตร อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือขอลาออกจากราชการเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.66) โดยระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่และความรู้ความสามารถ นับเป็นการสูญเสียบุคลากร ที่มีความรู้ความสามารถและเป็นคนดี อีกคนหนึ่งแล้ว ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “โบราณท่านว่าไว้ ที่ใดก็ตาม ที่คนดีอยู่ไม่ได้ แต่คนร้ายมีความสุข มีความเจริญก้าวหน้า ณ ที่นั้นเป็นกาลกิณีภูมิ ที่จะเผาผลาญผู้คน ณ ที่นั้นให้วอดวายมลายไป” นายไพศาล ระบุ สำหรับหนังสือลาออกจากราชการของ พ.ต.ท.บดินทร เพ็ญสูตร ตำแหน่ง สารวัตร (สอบสวน) สน.พระโขนง ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า เริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 3 เดือน เมษายน 2550 มีความประสงค์ขอลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.66 เนื่องจาก ตลอดระยะเวลาที่เป็นตำรวจนั้น ได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด ได้นำความรู้และความสามารถที่ได้เรียนรู้และสั่งสมมาตลอดทั้งชีวิตเพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทักษะด้านภาษาจีนที่ได้ทุ่มเทศึกษาจนชำนาญ และได้เข้าร่วมในการทำคดีสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคนจีน ตั้งแต่การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบมาเปิดฐานในไทย ติดตามประสานงานจนสามารถจับกุมกลุ่มคนไทยที่ไปเปิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศจีนปราบปรามผู้มีอิทธิพลชาวจีนที่มากระทำผิดในประเทศโทย รวมถึงการเป็นล่ามให้กับผู้บังคับบัญชาระดับสูงเมื่อมีการประชุมหารือกับตัวแทนจากสถานทูตจีนหรือกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน การแต่งตั้งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 ครั้งล่าสุด ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มองเห็นในความสามารถของข้าพเจ้าในการปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ได้โยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่เหมาะสมในด้านภาษาแต่อย่างใด อีกทั้งให้ข้าพเจ้าอยู่ในหน่วยงานที่ไม่ได้ใช้ความสามารถของข้าพเจ้าในการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ซึ่งทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าไม่เพียงพอที่จะทำงานให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณผู้บังคับบัญชาที่ได้ทำให้ความฝันของข้าพเจ้าที่จะลาออกจากการเป็นตำรวจ ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนเตรียมทหารนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และขอขอบพระคุณอีกครั้งที่นึกถึงกันเวลามีคดีสำคัญที่เกี่ยวกับคนจีน แต่กลับมองข้ามเมื่อถึงเวลาพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย และเมื่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วว่าข้าพเจ้าไม่มีความเหมาะสมที่จะได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายไปตำรงตำแหน่งที่เหมาะสมกับความสามารถ ข้าพเจ้าจึงขอย้ายตนเองไปอยู่ในงานที่เหมาะสมต่อไป