กุดน้ำอาถรรพ์! ทรายดูด 5 ชีวิตแม่น้ำมูล จ.บุรีรัมย์

วันที่ 12 ธ.ค. 2566 เวลา 16:31 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีครอบครัวหนึ่งเสียชีวิตพร้อมกัน 5 ศพ เพราะถูกทรายดูด ชาวบ้านเชื่อเป็นกุดน้ำอาถรรพ์ เผยจุดนี้ที่ผ่านมาตายหมู่ทุกครั้ง ทั้งที่น้ำไม่ลึก แถมจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กุดน้ำอาถรรพ์! ทรายดูด 5 ชีวิตแม่น้ำมูล จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) กู้ภัยวังกรูด อำเภอสตึก ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าจะสามารถนำร่าง 5 ชีวิต ขึ้นมาได้จากแม่น้ำมูล หลังได้รับแจ้งว่า นายวิริยา อายุ 45 ปี พร้อมลูกหลาน รวม 5 คน ออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ช่วงเช้า เพื่อไปเอาทรายมาผสมปูนมาปูกระเบื้องที่บ้าน แต่ผลปรากฏว่าทั้งหมดได้หายตัวไป ขาดการติดต่อ ก่อนไปพบอีกทีกลายเป็นศพอยู่ในแม่น้ำมูล ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่อีกครั้ง ไปยังสำนักสงฆ์ บูรพาราม หมู่ 2 บ้านกระสังใต้ ตำบลกระสัง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งศพของ 5 ผู้เสียชีวิต ทั้งศพ 2 พ่อลูก พ่อ อายุ 45 ปี และลูกสาว อายุ 23 ปี ส่วนนอกนั้น เป็น หลาน 3 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 14 ปี อายุ 11 ปี และเด็กชาย อายุ 8 ปี รวม 5 ชีวิต โดยบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีชาวบ้านมาให้กำลังใจญาติ ๆ กันไม่ขาดสาย โดยทีมข่าวได้ไปพูดคุยกับ นายประมวล ชุมทอง อายุ 62 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า เมื่อวานนี้ช่วงเช้า (11 ธ.ค.) ตนเองเห็นผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้ขับรถอีแต๊กมาด้วยกัน 4 คน ก่อนมีวัยรุ่นหญิงขี่รถจักรยานยนต์มาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 5 คน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะปกติชาวบ้านจะมาเอาทรายตรงจุดที่เกิดเหตุเป็นประจำ และพอมาช่วงเที่ยงก็ยังเห็นกลุ่มผู้เสียชีวิตและรถอีแต๊กอยู่เหมือนเดิม แต่พอตกเย็นเริ่มเอะใจ เนื่องจากรถอีแต๊กยังอยู่เหมือนเดิม แต่ไม่มีกลุ่มคนแล้ว จนกระทั่งมีคนมาแจ้งว่ากลุ่มผู้เสียชีวิตถูกทรายดูด นอกจากนี้ นายประมวล ยังบอกอีกว่าอาจจะมีใครคนใดคนหนึ่งโดนทรายดูด แล้วแต่ละคนก็พากันเข้าไปช่วยเหลือ ก่อนพากันถูกทรายดูดไปทั้งหมด เพราะทรายบริเวณดังกล่าวเป็นเหมือนทรายหลวมที่สามารถดูดจมหายไปได้ ด้าน นางสุดสงวน สุวรรณรัตน์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เล่าว่า ส่วนตัวเชื่อว่าที่เกิดเหตุเป็นกุดน้ำอาถรรพ์ เพราะที่ผ่านมาจะมีผู้คนมาเสียชีวิตเป็นหมู่ อย่างที่ผ่านมาเคยมีแม่พาลูกมาเล่นน้ำ แล้วจมหายไปพร้อมกัน 3 คน ต่อมาอีก 2 ปี ระหว่างมีการสร้างสะพานเชื่อมจังหวัดบุรีรัมย์กับจังหวัดสุรินทร์ ก็มีคนงานก่อสร้างที่ทำงานอยู่จมน้ำในลักษณะเดียวกัน เสียชีวิตอีก 4 ศพ พร้อม ๆ กัน และมาครั้งนี้เป็นพ่อ-ลูก และหลาน ๆ รวม 5 ศพ ซึ่งสิ่งที่น่ากลัว คือ จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนน่าขนลุก อีกทั้งจุดที่เกิดเหตุก็เป็นช่วงที่น้ำไม่ลึกมาก แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วน 5 ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ล่าสุด ทราบว่าจะมีการฌาปนกิจพร้อมกันในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ โดยพ่อจะเผาในเมรุ ส่วนลูกและหลานจะเผาแบบเชิงตะกอน ทรายดูดคืออะไร พร้อมแนะวิธีเอาตัวรอด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สสวท. เคยให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรายดูดเอาไว้ว่า ทรายดูด ประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ 4 อย่าง คือ ทราย น้ำ โคลน และ เกลือ เมื่ออยู่ในภาวะปกติไม่ได้ถูกรบกวน ส่วนประกอบทั้ง 4 จะประกอบเป็นโครงสร้างที่เกือบจะเป็นของแข็งอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าหากมีสิ่งรบกวน เช่น มีใครเหยียบลงไป มันก็จะกลายเป็นของเหลวเกือบสมบูรณ์ ส่วนวิธีการเอาตัวรอดจากทรายดูด หากยิ่งดิ้นหรือตะเกียกตะกายขึ้นมาจากบ่อทรายดูด แรงที่ดิ้นจะยิ่งทำให้ตัวเราจมลง แต่หากปล่อยตัวนิ่ง ๆ ความหนาแน่นของร่างกายจะน้อยกว่าความหนาแน่นของบ่อทราย ทำให้ร่างกายลอยขึ้นได้เอง และหากตกลงไปในบ่อทรายดูด ให้คุมสติ หงายศีรษะขึ้นฟ้า เอนตัวนอนหงาย พยายามเลื่อนตัวไปจับยึดสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว แต่หากตัวจมลงไปจนเกือบถึงเอวให้เลื่อนตัวอย่างช้า ๆ พยายามก้าวขาขึ้นมาที่ผิวทรายช้า ๆ อย่าก้าวเร็ว เพราะการก้าวเร็ว ทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นที่เท้า จะทำให้ทรายดูดตัวจมลงเร็วขึ้นไปอีก นอกจากนี้การกางแขนให้มากที่สุด ช่วยให้ตัวลอยอยู่ได้ สำหรับสถานที่ที่เกิดบ่อทรายดูดบ่อยครั้ง ได้แก่ ริมตลิ่ง, ชายหาด, ริมทะเลสาบ, หนองบึง และที่เฉอะแฉะ