หมอแล็บแพนด้า เผยภาพปอดหมอกฤตไท ปอดข้างขวาหายไปครึ่งหนึ่ง

วันที่ 12 ธ.ค. 2566 เวลา 12:39 น.

หมอแล็บแพนด้า เผยภาพเอกซเรย์ปอดของหมอกฤตไท ปอดข้างขวาหายไปครึ่งหนึ่ง ความร้ายกาจของ PM 2.5 ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้จริง ฝุ่น PM 2.5 วันนี้ (12 ธ.ค.66) หมอแล็บแพนด้า หรือ ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง เผยภาพเอกซเรย์ปอดของหมอกฤตไท นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล หมอหนุ่มอนาคตไกล ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.66 โดยหมอแล็บแพนด้าระบุว่า หมอกฤตไทเคยโพสต์เตือนเรื่องมลพิษทางอากาศ และ PM 2.5 ซึ่งตอนนั้นหมอกฤตไทเคยตั้งคำถามเรื่องอากาศที่เราหายใจเข้าไป ว่าไม่มีจัดลำดับความสำคัญ หรือให้น้ำหนักกับการแก้ไขปัญหาที่แหล่งกำเนิดของ PM2.5 อย่างจริงจังมากพอ ต้องมีหน่วยงานขึ้นมาเพื่อร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ คนเก่งๆในประเทศเรามีเยอะแยะ งบประมาณเราก็มี นักการเมืองก็มี นักวิชาการก็มี “แต่ประเทศไทยก็ยังติดอันดับปัญหาฝุ่นในระดับโลกติดต่อมาหลายปี ยังไม่เห็นความชัดเจนในการหาต้นตอของปัญหาและลงลึกถึงสาเหตุและแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่น PM2.5 เพื่อแก้รากเหง้าปัญหาอย่างตรงจุดและยั่งยืน หมอกฤตไท เคยระบุไว้แบบนี้” หมอแล็บแพนด้า ระบุด้วยว่า วันนี้ก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเหมือนเดิม พอเช้าขึ้นมาหลายคนยังโพสต์ภาพฝุ่นหนาอย่างกับหมอก เราทุกคนรู้ว่าฝุ่นพิษ PM 2.5 มันคือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก ซึ่งอยู่คู่กับประเทศไทยมาหลายปี และมันจะมาเป็นฤดูกาล ตั้งแต่หน้าหนาวยาวข้ามปีไปหน้าร้อน “ความร้ายกาจของ PM 2.5 คือ มันไม่ได้มาตัวเปล่า แต่ดันเอาเพื่อนอย่าง สารปรอท แคดเมียม โลหะหนักอื่นๆ และพวกสารก่อมะเร็งอีกมากมายติดมาด้วย PM 2.5 สามารถทำให้เราเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดได้จริง ซ้ำร้ายยังสามารถเหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งชนิดอื่นๆได้อีกด้วย” หมอแล็บแพนด้า ย้ำเตือนให้ป้องกันตัวเองไว้ก่อน เพราะตอนนี้ปัญหาฝุ่นยังคงมีอยู่ พอถึงจุดที่เราป่วยเข้าจริงๆ เงินทองอะไรทั้งหลายก็ไม่มีค่า การได้มีชีวิต ใช้ชีวิต และไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ มันคือดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ยังเป็นคำถามอยู่ว่า ถึงเวลาที่เราจะช่วยกันแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังแล้วหรือยัง