ปปง. แถลงผลการยึด-อายัดทรัพย์สินขบวนการค้าสุกรเถื่อน
วันที่ 12 ธ.ค. 2566 เวลา 11:31 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ซึ่งได้เห็นชอบให้ดำเนินการอายัด และยึดทรัพย์ ที่ได้จากการกระทำความผิดหลายคดี รวมกว่า 700 รายการ มูลค่านับพันล้านบาท ปปง. แถลงผลการยึด-อายัดทรัพย์สินขบวนการค้าสุกรเถื่อน โดยคดีความที่ผ่านการพิจารณา ของคณะกรรมการธุรกรรม ในการประชุม ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา จำแนกเป็นคดียาเสพติด คดีที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน คดีการพนัน รวมถึงคดีที่เกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร รวมทั้งสิ้น 20 คดี ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 769 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 1,071 ล้านบาท โดยคดีที่น่าสนใจ และรัฐบาลเร่งรัดสั่งการ อาทิ คดีการนำเข้า และส่งออกเนื้อ และซากสุกร โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือโดยหลีกเลี่ยงพิธีการทางศุลกากร ได้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินกลุ่มขบวนการไว้ชั่วคราว จำนวน 28 รายการ อาทิ ที่ดิน รถยนต์ และเงินฝากในบัญชีธนาคาร พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 37 ล้านบาท และมีคดีที่ส่งเรื่องให้อัยการ เพื่อยื่นคำร้องของให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน อีกจำนวน 10 คดี ทรัพย์สิน 147 รายการ พร้อมดอกผลมูลค่าประมาณ 57 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร ส่วนความคืบหน้าการดำเนินกับกลุ่มนายทุน ที่ลักลอบนำเข้าเนื้อและซากสุกรเถื่อน จนถึงขณะนี้ มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับบุคคลธรรมดา จำนวน 12 ราย และนิติบุคคล 10 ราย และเตรียมแยกดำเนินคดี กับบริษัทที่นำเข้าอีก 9 บริษัท สำหรับการขยายผลยึด-อายัดทรัพย์สินของกลุ่มขบวนการฯ ขณะนี้ ปปง. กำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมา ตรวจพบวิธีการโอนเงินออกนอกประเทศผ่านบริษัทชิปปิง และพบวิธีการโอนเงินบางส่วนผ่านเอเยนต์ที่รับโอนเงิน โดยไม่ผ่านธนาคาร เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่ DSI เรียกกรรมการบรัษัทห้องเย็น จ.นครปฐม ชี้แจงปมโอนเงิน 250 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าคดีหมูเถื่อน หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว DSI เข้าตรวจค้นห้องเย็นในจังหวัดนครปฐม 2 แห่ง ที่พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับนายทุนนำเข้าหมูเถื่อน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกกรรมการบริษัทห้องเย็นดังกล่าว 4 คน เข้ามาให้ปากคำในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อชี้แจงถึงจำนวนเงิน 250 ล้านบาท ที่มีการโอนทำธุรกรรมกับนายทุนหมูเถื่อน เป็นการโอนกันด้วยนิติกรรมใด ส่วนการตรวจยึดเนื้อหมูต้องสงสัย 137 ตัน จากห้องเย็นทั้ง 2 แห่ง เพื่อตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้เจ้าของสินค้า นำเอกสารมาแสดงภายใน 15 วันทำการ หากไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงถึงแหล่งที่มาที่ชัดเจนได้ จะดำเนินคดีกับเจ้าของสินค้าตามกฎหมาย DSI เรียก ไทกร ชี้แจงปมคลิป 10 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องในคลิปเสียงสนทนา เรื่องการออกของการเปิดตู้คอนเทเนอร์บรรจุสุกรแช่แข็ง จำนวน 38 ตู้ ที่ถูกอายัดไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบังของบริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด ด้วยเงินจำนวน 10 ล้านบาท ก่อนถูกกรมศุลกากรตรวจยึด จนตกเป็น 1 ใน 161 ตู้หมูเถื่อนในคดีพิเศษของ DSI โดยในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ได้นัดหมายนายไทกร พลสุวรรณ และนัดหมายนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ในวันที่ 19 ธันวาคม มาให้ปากคำถึงประเด็นคลิปเสียงที่เกิดขึ้นว่า มีพฤติกรรมเสนอเงิน เรียกรับเงิน หรือทุจริตในขั้นตอนใดหรือไม่