แม่-ลูก ทวงหนี้โหด ใช้มีดฟันอีกฝ่ายเอ็นแขนขาด

วันที่ 8 ธ.ค. 2566 เวลา 05:15 น.

เช้าข่าว 7 สี - ไปดูความเดือดร้อนอีกคดี เมื่อมี 2 แม่ลูก มาตามทวงเก็บเงินดอกเบี้ยรายวันกับลูกหนี้นอกระบบ ที่ยืมเงินไปแค่ 5,000 บาท แล้วมีปากเสียงกับน้องชายลูกหนี้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้มีดอีโต้ฟันที่แขน จนเอ็นแขนขาด 4 เส้น ผ่านไปเกือบ 2 เดือน คดีไม่คืบหน้า แม่-ลูก ทวงหนี้โหด ใช้มีดฟันอีกฝ่ายเอ็นแขนขาด นี่เป็นภาพเหตุการณ์ที่กล้องวงจรปิดของเทศบาลบางบัวทอง ที่อยู่ตรงจุดเกิดเหตุ บันทึกภาพขณะที่กลุ่มผู้เสียหาย ยืนมีปากเสียงกับสองแม่ลูกเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบคู่กรณี จากภาพจะเห็นวัยรุ่นชาย อายุ 19 ปี เป็นคนแรกที่ถูกอีกฝ่ายใช้มีดฟันที่แขน หลังจากที่เดินเข้าไปคล้ายเอามือชี้หน้า จากนั้นกลุ่มผู้เสียหายก็ทำท่าจะเข้าไปทำร้ายอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ได้ลงมือ ก่อนจะมีจังหวะที่ฝั่งที่ถือมีด จะทำร้ายผู้หญิงอีกคน แล้วเกิดการตะลุมบอนกันช่วงสั้น ๆ ก่อนที่ฝั่งที่มีมีดจะเดินแยกย้ายไป เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา นายชานนท์ ผู้เสียหาย คนที่เอ็นแขนขาด นำหลักฐานนี้ พร้อมกับครอบครัว พากันไปร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจสอบสวนกลาง หลังเคยเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง ท้องที่เกิดเหตุแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า นายชานนท์ เล่าว่า วันนั้นตนเองออกไปตั้งโต๊ะขายอาหารให้กับคนในหมู่บ้าน นำไปทำบุญใส่บาตรพระตามปกติ จู่ ๆ 2 แม่ลูกคู่กรณี ก็เดินมาเรื่องและทวงเงินกับตนเอง ซึ่งตนไม่ใช่คนยืมเงิน พี่ชายจึงเข้าไปตามแฟนที่เป็นคนยืมเงินให้ออกมาคุยกับเจ้าหนี้ ระหว่างนั้นคู่กรณีก็ใช้คำพูดไม่ดีด่าทอบุพการีตนเอง จนตนโมโห เดินเข้าไปชี้หน้าถามว่า "มาด่าตนเองทำไม ตนเองไม่ใช่ลูกหนี้" แต่อีกฝ่ายกลับมีอารมณ์โมโห ใช้มีดที่พกมา ฟันที่แขนของตนเองอย่างแรง ทำให้กลุ่มญาติพาของตนไม่พอใจ ต่างฝ่ายต่างเริ่มมีปากเสียง ก่อนจะมีการลงไม้ลงมือทำร้ายกันเป็นคู่ ๆ โดยพี่ชายพยายามกันไม่ให้คู่กรณีรุมทำร้าย ขณะที่หญิงที่มาทวงเงิน ก็ใช้มีดฟันที่แผ่นหลังของพี่สะใภ้ จนสุดท้ายพอถูกแย่งมีดออกมาได้ อีกฝ่ายจึงพากันเดินกลับไป ส่วนที่มาที่ไป เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พี่สะใภ้ และพี่ชาย ไปกู้ยืมเงินนอกระบบ 5,000 บาท มาใช้จ่าย เพราะหมุนเงินไม่ทัน โดยอีกฝ่ายคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน และให้ผ่อนจ่ายวันละ 100-120 บาท หากวันไหนไม่จ่าย ต้องเสียค่าปรับวันละ 100 บาท ซึ่งพี่ชายจ่ายเงินได้ไม่มีปัญหา แต่พี่สะใภ้จ่ายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ส่วนอาการบาดเจ็บ ตนเองเอ็นแขนซ้ายฉีกขาด 4 เส้น ไม่สามารถทำงานได้ พี่สะใภ้ถูกฟันที่แผ่นหลังช่วงเอว ต้องเย็บ 7 เข็ม และแม่มีรอยกัดที่แขน หลังเกิดเหตุตนและครอบครัว ได้พากันไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางบัวทอง และหาหลักฐานวงจรปิดมายืนยันเหตุการณ์ ซึ่งคนในละแวกไม่มีคนยอมช่วย เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มีอิทธิพล จนมาได้หลักฐานกล้องวงจรปิดของเทศบาล ซึ่งก็เอาไปให้ตำรวจพิจารณาแล้ว แต่จนถึงขณะนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า สอบถามไปล่าสุดตำรวจอ้างว่า ต้องรอเอกสารผลการรักษาจากแพทย์ก่อน ยังไม่ยอมออกหมายเรียก หรือหมายจับอีกฝ่าย จนตนเองและครอบครัวกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ประสานไปที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบถามรายละเอียดทางคดี และให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ตำรวจพร้อมดูแลประชาชน แก้หนี้นอกระบบ จ.ชัยนาท ส่วนกรณีเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดที่จังหวัดชัยนาท สั่งลูกน้องไปพังร้านส้มตำของลูกหนี้ โต๊ะเก้าอี้ ล้มกระจัดกระจาย บางส่วนยังถูกนำไปโยนทิ้งคลองหน้าร้าน ซึ่งเจ้าของร้านมั่นใจว่าเป็นฝีมือของเจ้าหนี้ที่เธอไปกู้ยืมเงินมา แต่เมื่อรัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนแก้หนี้ เธอจึงหยุดจ่ายดอกเบี้ย ขอจ่ายแค่เงินต้นวันละ 500 บาท อาจทำให้เจ้าหนี้ไม่พอใจ ก่อเหตุขึ้น แต่หลังจากที่ นายกฯ เศรษฐา สั่งการเพียงข้ามคืน ตำรวจ สภ.สรรคบุรี ก็ไปตามจับนายทุนเงินกู้ และลูกน้องอีก 2 คน ที่ไปข่มขู่ทวงหนี้ โดย พลตำรวจโท จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ขอให้เจ้าหนี้ลูกหนี้มาลงทะเบียน เชื่อว่าจะได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย และตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้ อีกจุดที่มีแก๊งเงินกู้ปล่อยกู้จำนวนมาก คือที่ตลาดปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแม่ค้าในตลาด ซึ่งในขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ ก็ยังเจอเด็กวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาเก็บดอกเบี้ยต่อหน้าต่อตา ซึ่งในทุก ๆ วัน แม่ค้าบอกว่าต้องจ่ายดอกลอย (จ่ายแต่ดอกเบี้ย เงินต้นไม่ลด) คนละกว่า 1,000 บาท ถ้าไม่จ่ายจะถูกข่มขู่สารพัด แต่ช่วงนี้ดีขึ้น เจ้าหนี้ไม่กล้าข่มขู่มาก เพราะกลัวถูกจับกุมจากนโยบายแก้หนี้