ยืดหนี้ กฟผ. เพื่อตรึงค่าไฟ?

วันที่ 1 ธ.ค. 2566 เวลา 15:33 น.

“ก้าวไกล” ถาม “นายกฯ” จะยืดหนี้ กฟผ. เพื่อตรึงค่าไฟอีกหรือไม่ หวั่นหนี้ท่วม 1.4 แสนล้านบาท ประชาชนต้องตามชดใช้   วันนี้ (1ธ.ค.66) นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุ พรรคก้าวไกล กังวลกับอัตราค่าไฟในช่วงต้นปีหน้า  และ กังวลต่อมาตรการของรัฐบาลที่จะออกมา ซึ่งอ้างว่า เป็นผลงานของรัฐบาลในการลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย กำลังจะหมดไป เพราะล่าสุดค่าเอฟที สำหรับงวดเดือน ม.ค. - เม.ย. 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยรวมพุ่งจาก 3.99 บาทต่อหน่วย ไปอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย แบบก้าวกระโดด ทั้งที่ต้นทุนค่าไฟของต้นปีหน้าอยู่ที่แค่ 4.05 บาท เท่านั้น ส่วนเกิน 64 สตางค์มาจากไหน นายศุภโชติ กล่าวย้อนไปถึงมาตรการที่รัฐบาลในอดีตเคยใช้ในการลดค่าไฟ วิธีหลัก คือ การให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้แบกภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าไว้ก่อน รัฐบาลนี้ก็ใช้วิธีเดียวกัน ทำให้ปัจจุบันภาระหนี้ที่ กฟผ. แบกไว้มีมูลค่าสูงถึง 95,777 ล้านบาท  และ รัฐบาล หรือ กฟผ. เลือกที่จะขึ้นค่าไฟของประชาชน เพื่อเอาเงินมาจ่ายหนี้ก้อนที่แบกอยู่ โดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีการประกาศรับฟังความคิดเห็นเรื่องค่าไฟ สำหรับเดือน ม.ค. 2567 โดยแบ่งเป็น 3 กรณี - ถ้าต้องการให้ กฟผ. ชำระหนี้ที่แบกอยู่ภายใน 4 เดือน ค่าไฟที่ควรเป็นจะสูงถึง 5.95 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นกว่า 50% จากระดับ 3.99 บาทต่อหน่วยในปัจจุบัน ซึ่งตนถือว่าเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด - ให้ กฟผ. จ่ายคืนภาระหนี้ภายใน 1 ปี ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็น 4.93 บาทต่อหน่วย - อนุญาตให้ กฟผ. ยืดระยะเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเป็น 2 ปี ค่าไฟจะอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย “หากใช้มาตรการแบกหนี้ยืดหนี้แบบเดิมอีก ก้อนหนี้ที่สุดท้ายประชาชนต้องจ่ายก็จะใหญ่ขึ้นอีก มีการคำนวณไว้ว่า หากมีการตรึงค่าไฟในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567 ไว้เท่าเดิมที่ 3.99 บาท มูลค่าหนี้จะเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 140,000 ล้านบาท และสุดท้ายเมื่อหมดโปรโมชันเราอาจจะเห็นประชาชนต้องจ่ายค่าไฟ 6 บาทต่อหน่วยก็เป็นได้” นายศุภโชติ กล่าว