ตำรวจทำสำนวนคดี กำนันนก งง อัยการสั่งไม่ฟ้องนายตำรวจ 5 นาย
วันที่ 1 ธ.ค. 2566 เวลา 07:04 น.
สนามข่าว 7 สี - ตำรวจชุดทำสำนวนคดี งง อัยการไม่สั่งฟ้องนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 5 นาย ในคดีกำนันนก ตำรวจทำสำนวนคดี กำนันนก งง อัยการสั่งไม่ฟ้องนายตำรวจ 5 นาย เป็นกรณีที่ตำรวจสอบสวนกลาง สรุปสำนวนคดี นายปวีณ จันทร์คล้าย หรือ "กำนันนก" ยื่นให้อัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 23 คน จาก 28 คน ส่วน 5 คน ซึ่งเป็นตำรวจระดับผู้กำกับการจนถึงร้อยตำรวจเอก ทีมข่าวช่อง 7HD สอบถามตำรวจที่ทำสำนวนคดี ที่ยังไม่เข้าใจทำไมอัยการจึงสั่งไม่ฟ้องตำรวจทั้ง 5 นาย ทั้งที่มีพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดยืนยันชัดเจนว่า ขณะเกิดเหตุเสียงปืนดังขึ้น นายตำรวจยศผู้กำกับ 2 นาย ซึ่งมียศสูงสุด วิ่งหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที ไม่พยายามเข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ หรือให้การช่วยเหลือลูกน้องที่ถูกยิง ก่อนจะเดินทางไปที่โรงพยาบาล ซึ่งทำให้ตรงนี้อาจเกิดความไม่เป็นธรรมกับคนอื่นที่ถูกฟ้องทั้ง 23 คน อสส. สั่งฟ้อง 2 สำนวนคดี กำนันนก สั่งไม่ฟ้องตำรวจ 5 นาย ก่อนหน้านี้ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงผลการสั่งฟ้องกำนันนก 2 สำนวนคดี โดยสำนวนคดีฆาตกรรม สารวัตรแบงค์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่มี นายธนันชัย หมั่นมาก หรือ "หน่อง" เป็นคนยิง และถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรม อัยการสำนักงานคดีอาญามีความเห็นให้สั่งฟ้องในคดีนี้ ส่วนสำนวนที่ 2 กล่าวหาตำรวจและพลเรือนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวม 28 คน ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิด รวมถึง "กำนันนก" ด้วย พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้อง 23 คน ในข้อหาแตกต่างกันไป รวม 6 คนแรกที่ถูกจับดำเนินคดี โดยเป็นกลุ่มที่ขับรถพากำนันนกหลบหนี และทำลายพยานหลักฐาน ส่วน 5 นายตำรวจที่ไม่สั่งฟ้อง ซึ่งรวมถึง พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร อดีตผู้กำกับการ สน.พญาไท นั้น เนื่องจากหลังเกิดเหตุยิง สารวัตรแบงค์ ทั้ง 5 คน มีความเคลื่อนไหว เช่น พาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล หรือช่วยสนับสนุนในด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ พนักงานอัยการจึงพาตัวตำรวจและพลเรือน 23 คน ไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางต่อไป ทั้งนี้ ต้องรอความเห็นทางคดีจากผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากมีความเห็นแย้งต้องให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ซึ่งหากอัยการสูงสุดมีความเห็นให้สั่งฟ้อง ก็สามารถพาตัวตำรวจทั้ง 5 นาย กลับมาดำเนินคดีใหม่ได้