สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2564 - 2565
วันที่ 30 พ.ย. 2566 เวลา 20:06 น.
เวลา 14.04 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ไปยังอาคารสถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประจำปีการศึกษา 2564 - 2565 ในการนี้ พระราชทานรางวัล "สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี" แก่บัณฑิตที่มีผลคะแนนการศึกษาสูงสุด มีพฤติกรรมเป็นแบบอย่างที่ดี ด้านวิชาการ, คุณธรรม, จริยธรรม, กีฬา, ศิลปวัฒนธรรม และจิตอาสา จำนวน 8 คน โดยปีการศึกษา 2564 - 2565 มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาในสังกัด ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ รวม 380 คน ประกอบด้วย สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์, วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์, วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน และวิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นสถาบันอุดมศึกษามุ่งเน้นการผลิตและพัฒนาบุคลากร เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน และการวิจัยด้านการแพทย์, การสาธารณสุข, วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ควบคู่กับการใช้วิทยาการขั้นสูง และนวัตกรรม มาบูรณาการความเป็นเลิศในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และการดูแลสุขภาพอนามัยที่ดีแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมในทุกมิติ โอกาสนี้ พระราชทานพระโอวาทความว่า "ปริญญาบัตรที่บัณฑิตได้รับนี้ เป็นเครื่องรับรองวิทยฐานะของแต่ละคน ว่ามีความรู้ความสามารถทางวิชาการ ในสาขาที่ได้พากเพียรศึกษาเล่าเรียนมา กล่าวได้ว่า บัณฑิตทุกคนเป็นทรัพยากรบุคคลที่ทรงคุณค่าของประเทศ เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถสูงในสาขาวิชาต่าง ๆ จึงขอให้ทุกคนถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และฝึกฝนความสามารถให้เพิ่มพูนขึ้นอยู่เสมอ แล้วนำความรู้ความสามารถทั้งนั้น ไปใช้ประกอบกิจการงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์ สุจริต และความเสียสละ โดยมุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์เฉพาะตน หากปฏิบัติได้ดังนี้ บัณฑิตก็จะสามารถสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่ตนเองและประเทศชาติได้ สมกับที่มีวิทยฐานะอันสูง"