กยศ. ชี้แจง นศ.พยาบาลยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้ เพราะข้อมูลไม่สอดคล้อง

วันที่ 28 พ.ย. 2566 เวลา 16:47 น.

นศ.พยาบาลร่ำไห้ยังไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้กยศ. ล่าสุด กยศ.ชี้แจง พบความไม่สอดคล้องของข้อมูล ต้องรอสถานศึกษาชี้แจงในสัปดาห์หน้า (28 พ.ย.2566) จากกรณีนักศึกษาพยาบาลเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ว่ายังไม่ได้รับอนุมัติการให้เงินกู้ยืมจากกองทุนนั้น กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงว่า สถานศึกษาดังกล่าว มีผู้กู้ยืมเงินในปีการศึกษา 2564 จำนวน 9,199 ราย ปีการศึกษา 2565 จำนวน 14,937 ราย และปีการศึกษา 2566 มีผู้ยื่นขอกู้ยืม จำนวน 23,136 ราย  ซึ่งผู้กู้ที่ได้ยื่นขอกู้ยืมเงินในปี 2566 ได้รับการอนุมัติให้กู้ยืมเงินแล้ว จำนวน 16,313 ราย คงเหลือยังไม่อนุมัติให้กู้ยืม จำนวน 6,823 ราย สำหรับกลุ่มที่ยังไม่ได้อนุมัติ ตรวจสอบพบว่า เป็นผู้ที่มีงานทำแล้วจำนวน  2,644 ราย ซึ่งไม่เป็นไปตามคุณสมบัติของการกู้ยืม ทั้งนี้ กองทุนตรวจพบความไม่สอดคล้องของข้อมูลหลายประการ เช่น ผู้กู้ยืมบางรายแจ้งว่าไม่ทราบข้อมูลของบิดามารดา และเมื่อกองทุนขอข้อมูลเพิ่มเติม บางรายแจ้งว่าไม่สะดวกในการเตรียมเอกสาร นอกจากนั้นผู้รับรองรายได้บางรายมีการรับรองรายได้ ให้กับครอบครัวของผู้กู้ยืมจำนวนมากที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดกัน และเมื่อกองทุนติดต่อไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ให้ไว้แต่ติดต่อไม่ได้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)  กำหนดคุณสมบัติของผู้กู้ยืมเงิน เอาไว้ว่า 1. มีสัญชาติไทย 2. ศึกษาหรือได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่ร่วมดำเนินงานกับกองทุน 3. เป็นผู้ขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในการเข้าศึกษาที่สถานศึกษาเพียงแห่งเดียวในคราวภาคการศึกษาเดียวกัน 4. มีผลการเรียนดีหรือผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลของสถานศึกษา 5. มีความประพฤติดี ไม่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาขั้นร้ายแรงหรือไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้กำหนดลักษณะต้องห้าม ดังนี้ 1. ไม่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาใดสาขาหนึ่งมาก่อน 2. ไม่เป็นผู้ปฏิบัติงานและรับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำในหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ในลักษณะเต็มเวลา เว้นแต่จะได้กำหนดเป็นอย่างอื่นในคุณสมบัติเฉพาะสำหรับการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาลักษณะหนึ่งลักษณะใด 3. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 4. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 5. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับกองทุน เว้นแต่ได้ชำระหนี้ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ และรอการชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมจากทางสถานศึกษา ทั้งนี้ กองทุนได้แจ้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งเป็นต้นสังกัดของสถานศึกษาให้ทราบแล้ว โดยกองทุนและเจ้าหน้าที่ของทางกระทรวง อว. จะลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบและรับฟังคำชี้แจงของสถานศึกษาในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม กองทุนขอยืนยันว่า ผู้กู้ยืมที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้ามและดำเนินการตามระเบียบที่กองทุนกำหนดจะมีสิทธิได้กู้ยืมอย่างแน่นอน”