หนุ่มโวย! ถูกนิติฯ แกล้งตัดน้ำ 2 วัน ลบข้อมูลสแกนนิ้วเข้าอาคาร จ.ปทุมธานี
วันที่ 28 พ.ย. 2566 เวลา 16:41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - มีชายหนุ่มออกมาร้องของความช่วยเหลือจากรายการถกไม่เถียง ขอให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย เขาได้ไปซื้อคอนโดฯ ย่านพหลโยธิน 89 ถูกนิติบุคคลของคอนโดฯ กลั่นแกล้ง โดยการตัดน้ำในห้องพัก 2 วัน ลบข้อมูลการสแกนนิ้วเข้าอาคาร ลบข้อมูลที่จอดรถ แถมเรียกพวกมาข่มขู่ หลังเกิดเหตุไปแจ้งความขอดูกล้องวงจรปิด แต่นิติบุคคลกลับไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจอีก นายธนาวิน วัชรภิณโยพงศ์ อายุ 36 ปี ออกมาร้องเรียนเรื่องนี้ โดยเล่าให้ฟังว่า ตนเองซื้อคอนโดฯ แห่งนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้อยู่มาก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนนิติบุคคลชุดใหม่เข้ามาทำงาน ลูกบ้านหลายห้องก็เริ่มบ่นถึงพฤติกรรมของนิติบุคคลชุดนี้ว่ามีการกลั่นแกล้งลูกบ้าน แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะตนเองทำตามกฎของคอนโดฯ มาตลอด จนมาเจอกับตัวเอง ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ช่วงเช้า ตนเองได้แอบเอาสุนัขมาเลี้ยงในห้อง เนื่องจากแม่ตนเองต้องเข้าผ่าตัดหลายวัน จึงนำสุนัขมาพันธุ์เล็กฝากไว้ที่ตน ตนจึงเอามาเลี้ยงไว้ที่ห้อง จากนั้นช่วงเย็นของวันเดียวกันนิติบุคคลก็มาทราบว่าตนนำสุนัขเข้ามา ตนเองจึงรีบนำสุนัขออกจากพื้นที่ทันที หลังจากนั้นนิติบุคคลได้แจ้งว่าให้ตนไปจ่ายค่าปรับที่นำสุนัขเข้ามา 2,000 บาท ตนเองก็แปลกใจว่าทำไมไม่ว่ากล่าวตักเตือนก่อน ตนเองเอาเข้ามาได้แป๊บเดียว เพราะในกฎของคอนโดฯ ที่ติดประกาศไว้คือพบครั้งแรกว่ากล่าวตักเตือน และก็เพิ่งเคยทำผิดครั้งแรก แถมพอถูกจับได้ก็รีบนำสุนัขออกไปทันที แต่นิติบุคคลไม่ยอม ให้ตนเองจ่ายค่าปรับอย่างเดียว ตนเองไม่จ่าย จึงมีปากเสียงกัน ต่อมาวันที่ 19 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 08.00 น. ตนได้เจรจากับนิติบุคคลว่า เรื่องแค่นำสุนัขเข้ามามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องตัดน้ำ แต่นิติบุคคลก็ไม่ฟัง พอถึงตอนเวลาเที่ยง แฟนตนเองโทรศัพท์มาบอกว่า น้ำในห้องถูกตัด ตนเองจึงไปเจรจากับนิติบุคคลอีกครั้งหนึ่ง แต่นิติบุคคลก็ไม่ยอมอยู่ดี ต่อมาวันที่ 21 พฤศจิกายน ตนเองจึงประสานไปยังบริษัทแม่ของคอนโดฯ แห่งนี้ ได้นัดประชุมกันตอนบ่าย ในที่ประชุมก็มีปากมีเสียงกันเหมือนเดิม ทางนิติบุคคลพูดจาไม่ดี และได้มีการเรียกคนภายนอกเข้ามาข่มขู่อีก ตนเองคิดว่าเรื่องมันจะจบแค่นี้ แต่เรื่องกลับไม่จบ ทางนิติบุคคลได้ลบข้อมูลรถยนต์ตนเองออกจากอาคาร ทำให้นำรถเข้าไปจอดไม่ได้ ไม้กั้นอัตโนมัติไม่เปิดให้ จากนั้นพอตนจะเดินขึ้นห้อง ปรากฏว่าขึ้นไปไม่ได้ เนื่องจากถูกลบข้อมูลสแกนนิ้วเข้าอาคารอีก ทีนี้ตนจึงไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ ต่อมาตนเองได้ยอมเสียค่าปรับไป 500 บาท เพื่อแลกกับการเปิดน้ำให้ นายธนาวิน กล่าวต่ออีกว่า จากนั้นวันที่ 26 กับ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตนได้เอาใบบันทึกประจำวันไปขอกล้องวงจรปิดตอนที่นิติบุคคลให้คนภายนอก 2 คน เข้ามาข่มขู่ตน เพื่อมาประกอบสำนวนคดี โดยมีตำรวจมาเจรจาด้วย แต่ปรากฏว่าทางนิติบุคคลไม่ยอมให้คลิปวิดีโอ โดยอ้างว่าไม่อยู่บ้าง ประชุมบ้าง สุดท้ายบอกไม่มีสิทธิ์ขอดู ตนเองคิดว่าการที่นิติบุคคลมาตัดน้ำลูกบ้าน เป็นการละเมิดสิทธิลูกบ้านอย่างร้ายแรง เพราะตนเองจ่ายค่าส่วนกลางปีละ 12,000 บาททุกปี ตนเองได้มีการพิมพ์เข้าไปในไลน์กลุ่มของคอนโดฯ ที่มีสมาชิกอยู่กว่า 400 คน โดยแจ้งว่า "ใครจะไม่ทนกับนิติบุคคลที่เข้ามาบริหารชุดนี้ กด 1" ปรากฏว่ามีคนกด 1 มากกว่า 200 คน ตนจึงอยากให้บริษัทแม่ที่ดูแลคอนโดฯ แห่งนี้เข้ามาตรวจสอบ ทำประชาวิจารณ์ความเห็นของลูกบ้านให้ที เบื้องต้นตอนนี้ตนเองได้ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมกับ สคบ. ไว้แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ไทม์ไลน์ตั้งแต่วันเกิดเหตุ วันที่ 18 พฤศจิกายน ช่วง 12.00 น. นำสุนัขเข้ามาที่ห้อง วันที่ 18 พฤศจิกายน ช่วง 15.00 น. นิติบุคคล มาเคาะประตูแจ้งให้เอาสุนัขออก พร้อมจ่ายค่าปรับ 2,000บาท วันที่ 19 พฤศจิกายน ช่วง 12.00 น. ตัดน้ำ และเวลา 17.00 น ไปลงบันทึกประจำวัน วันที่ 20 พฤศจิกายน ช่วง 19.30 น. เสียค่าปรับ 500 บาท เปิดน้ำให้ วันที่ 21 พฤศจิกายน ประชุมร่วมกัน นิติบุคคลนำคนภายนอกมาข่มขู่ ถูกลบข้อมูลเข้าอาคารกับที่จอดรถ (เข้าแจ้งความเพิ่ม) วันที่ 26-27 พฤศจิกายน เข้าไปขอกล้องวงจรปิด ถูกปฏิเสธ ทั้งนี้ ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังผู้คุยกับผู้เสียหายอยู่นั้น มีลูกบ้านชูป้าย "หยุดรังแกลูกบ้าน" ออกมาทางหน้าต่าง และมีลูกบ้านหลายคนเข้ามาให้ข้อมูลถึงพฤติกรรมของนิติบุคคลชุดนี้