ชาวบ้านลุ้นหวั่นโคมลอยตกใส่บ้าน หลังซากเกลื่อนเมือง

วันที่ 28 พ.ย. 2566 เวลา 15:27 น.

ยี่เป็งยังคงเหลืออีกคืน เช้านี้พบซากโคมลอยเกลื่อนทั่วเมือง ชาวบ้านหวั่น คนลักลอบจุดทำตกใส่บ้าน (28 พ.ย.66) แม้ว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ยังไม่ยืนยันว่าสาเหตุมาจากโคมลอยที่ลักลอบปล่อยกัน แต่จากคำกล่าวอ้างของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่าไฟไหม้ครั้งนี้น่าจะมาจากโคมลอยที่ลักลอบจุดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำการพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงให้กระจ่าง แต่ทั่วเมืองเชียงใหม่ตอนนี้พบซากโคมลอยที่ถูกปล่อยตกลงมาเป็นขยะเกลื่อนเมืองทั้งตามถนน  ต้นไม้ บ้านเรือนประชาชน แต่โชคดีที่ขี้ไต้ หรือเชื้อเพลิงไหม้ดับหมดแล้ว อย่างไรก็ตามงานประเพณียี่เป็งของชาวเชียงใหม่ยังเหลืออีก 1 วัน คือคืนนี้วันสุดท้าย (28 พ.ย.66) เป็นวันประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ เสี่ยงที่อาจจะยังมีการลักลอบปล่อยโคมลอยในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และกำลังเจ้าหน้าที่อาจจะไม่เพียงพอหรือดูแลได้ทั่วถึง อีกทั้งทีมข่าวยังตระเวนพบว่ามีการนำโคมลอยมาวางจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวอยู่โดยไม่สนข้อห้าม และคำเตือน ทำให้คืนนี้คาดว่าจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อเช้านี้ชาวบ้านในตัวเมืองเองก็อาจจะต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา และต้องเฝ้าระวังหลังคาบ้าน พื้นที่ รวมทั้งทรัพย์สิน ของตนเองกันตลอดทั้งคืนอย่างแน่นอน แม้จ.เชียงใหม่ จะมีมาตรการเข้มในเรื่องของการปล่อยโคมลอย โดยทางจังหวัดได้ออกประกาศกำหนดวันและเวลาปล่อยโคม รวมถึงลักษณะของโคม และพื้นที่ปล่อยโคมอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบกับการขึ้นลงของอากาศยาน และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยสามาถทำการปล่อยโคมได้เพียง 2 วันเท่านั้น คือ วันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน 2566 วันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันลอยกระทงเล็ก อนุญาตให้ปล่อยโคมควันหรือว่าวฮมได้เฉพาะเวลา 10.00-12.00 น.  ส่วนโคมลอยและโคมไฟ อนุญาตให้ปล่อยได้เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแห่ขบวนกระทงใหญ่ กำหนดให้ปล่อยโคมลอยและโคมไฟได้เฉพาะเวลา 19.00-01.00 น.  แต่ไม่อนุญาตให้ปล่อยโคมควันหรือว่าวฮม โดยเน้นย้ำว่า ต้องปล่อยในพื้นที่ที่มีการขออนุญาตแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดพื้นที่ห้ามจุดและปล่อยโคมโดยเด็ดขาดใน 6 อำเภอ 39 ตำบล  ประกอบด้วย อำเภอเมือง และอำเภอหางดง ทุกตำบล , อำเภอสารภี ในพื้นที่ตำบลขัวมุง ตำบลดอนแก้ว ตำบลสันทราย ตำบลท่าวังตาล และตำบลหนองผึ้ง,อำเภอสันทราย พื้นที่ตำบลหนองหาร , อำเภอแม่ริม พื้นที่ตำบลดอนแก้ว ตำบลเหมืองแก้ว ตำบลริมใต้ ตำบลแม่สา ตำบลริมเหนือ และอำเภอสันป่าตอง พื้นที่ตำบลทุ่งเสี้ยว เนื่องจากเป็นพื้นที่ชุมชนและอยู่ในรัศมีของเครื่องบิน สำหรับอำเภอและตำบลอื่นๆ  หากสถานที่ใดจะจัดให้มีการจุดและปล่อยโคมลอย จะต้องยื่นอนุญาตต่อนายอำเภอก่อนไม่น้อยกว่า 30 วัน หรือก่อนวันที่ 28 ตุลาคม 2566 โดยจะต้องทำสัญลักษณ์หรือสี เพื่อให้สะดวกในการติดตามหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น พร้อมทั้ง ทำบันทึกข้อตกลงแสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหาย และเตรียมแผนรักษาความปลอดภัยรองรับ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ายังมีการลักลอบปล่อยโคมลอยในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ในค่ำคืนที่ผ่านมาแม้จะเป็นพื้นที่สีแดงห้ามปล่อยโคมลอยอย่างเด็ดขาดในทุกวันทุกช่วงเวลาก็ตาม ซึ่งมีภาพนักท่อเที่ยวนำโคมลอยมาปล่อยริมแม่น้ำปิงให้เห็นกันตลอดทั้งคืน และจุดที่เกิดเพลิงไหม้เองก็อยู่ไม่ห่างจากริมแม่น้ำปิง และบนสะพานนวรัฐที่มีการลักลอบปล่อยโคมลอยกันในช่วงกลางดึก จนมาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นดังกล่าวที่ยังต้องรอการตรวจสอบสาเหตุ