ดรามา สตังค์แบงค์ เที่ยวเกาะห้องเจอ นทท.เล่นหอยมือเสือ

วันที่ 25 พ.ย. 2566 เวลา 11:08 น.

เกาะห้องดรามา สตังค์แบงค์ งงนักท่องเที่ยวหยิบหอยมือเสือ-เล่นน้ำใกล้แนวปะการัง อุทยานฯ ตักเตือนแล้วงัดเครื่องเสียงประกาศลั่น 3 ภาษา เกาะห้องดรามา วานนี้(25 พ.ย.2566) สตังค์แบงค์ ยูบทูบเบอร์สาว เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านอินสตาแกรม satangbank และช่องทางออนไลน์ส่วนตัว เล่าเหตุการณ์ขณะท่องเที่ยวบริเวณเกาะห้อง พื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ พบนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำริมชายหาดใกล้แนวปะการังและมีคนหยิบหอยมือเสือขึ้นมาเล่น พร้อมกับตั้งคำถามว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงไม่เข้าไปตักเตือน โดยคลิปดังกล่าวระบุว่า "พังมาก เราไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันคือถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ตอนนี้กำลังอยู่เกาะห้อง พบลงไปเล่นน้ำได้เดี๋ยวหนึ่ง ก็งงว่านี่มันไม่ใช่หิน มันคือปะการังทั้งแถบเลย ก็เลยลุกขึ้นมา บอกแฟนว่ามันคือปะการัง มีแต่ปลา ก็ไม่อยากทำลายปะการัง พอขึ้นมาก็เห็นป้ายแจ้งเตือนว่าถ้าน้ำลดห้ามลงไป แต่วันนี้นักท่องเที่ยวเต็มไปหมด พอไปแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ 2 คน เขาบอกว่ามันยากที่จะพูด ก็งง และที่เกาะห้องปะการังเยอะมาก ตรงท่าเรือมีปะการังเยอะมาก เราควรอนุรักษ์เอาไว้ เพราะปะการังสำคัญมาก ต้องระวังมาก แต่ทำไมเขาไม่ใส่ใจกันเลย ทำไมไม่บอกนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวลงไปแล้วจับหอยมือเสือด้วย" ขณะที่ นายศิริวัฒน์ สืบสาย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เปิดเผยกับทีมข่าว Ch7HD News ถึงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบเรื่องแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่น้ำทะเลลดลงแล้วมีนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำ และยังมีบางส่วนหยิบหอยมือเสือขึ้นมาด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนไปแล้ว และอุทยานฯ ได้ติดป้ายประกาศเตือนห้ามลงเล่นน้ำหากน้ำทะเลลดระดับลง แต่ยอมรับว่าไม่สามารถห้ามได้ทั้ง 100% เพราะจะกระทบในภาคของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่จึงเพิ่มการประชาสัมพันธ์ แต่ได้นำเอาเครื่องขยายเสียงมาติดตั้งเพิ่มเพื่อประกาศเตือนเสียง 3 ภาษา ทั้งภาษาไทย อังกฤษ และจีน ห้ามไม่ให้ลงเล่นน้ำใกล้แนวปะการัง ซึ่งเดิมทีไม่อยากใช้มาตรการนี้ เพราะเครื่องขยายเสียงจะกระทบกับความเงียบสงบของธรรมชาติ ทั้งนี้ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ระบุอีกว่า ปะการังถือเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอนุบาลของสัตว์น้ำ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในวงจรห่วงโซ่ของระบบนิเวศน์ทางทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีทั้งหมดประมาณ 80 คน แบ่งกำลังกระจายกันดูแลพื้นที่ทั้ง 65,000 ไร่ อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บนบก ถ้ำลอด ถ้ำผีหัวโต ธารโบกขรณี รวมถึงหมู่เกาะห้อง