ตำรวจเชื่อรอยปั๊มฟันเฟืองล่าแต้ม อดีตเด็กช่างเผยสมัครใจ
วันที่ 24 พ.ย. 2566 เวลา 16:22 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - วันนี้ 8 เด็กช่างที่พัวพันคดียิงน้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวาย และครูเจี๊ยบเสียชีวิต ถูกนำตัวไปฝากขัง แต่ประเด็นที่น่าสนใจ คือรอยประทับรูปฟันเฟืองบนแขนเด็กช่าง ซึ่งตำรวจเชื่อว่า เป็นการปั๊มฟันเฟืองล่าแต้ม ขณะที่อดีตนักศึกษาช่างกลชื่อดัง เปิดเผยว่า การปั๊มสัญลักษณ์ฟันเฟืองมีมานานแล้ว เป็นไปเพื่อความกลมเกลียวสามัคคี และคนที่ถูกปั๊มฟันเฟืองต้องสมัครใจ ตำรวจเชื่อรอยปั๊มฟันเฟืองล่าแต้ม อดีตเด็กช่างเผยสมัครใจ จากกรณี นายธนสรณ์ หรือ น้องหยอด นักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา อีกทั้งครูเจี๊ยบ นางสาวศิรดา สินประเสริฐ ครูโรงเรียนพรหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงเสียชีวิต ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุมผู้ต้องหา 9 คน เป็นองค์กรอาชญากรรม ช่วงสายวันนี้ ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหา 8 คนไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนอีกคนที่ชื่อ นายเอย ซึ่งมีคดียิงนักศึกษาอุเทนถวายเสียชีวิตเมื่อต้นปี ตำรวจส่งตัวให้ สน.ปทุมวัน ซึ่งถูกนำตัวไปฝากขังแล้วเช่นกัน โดยก่อนที่ตำรวจนำตัว 8 ผู้ต้องหาไปฝากขัง พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเองที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ หลังมีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาบางคนมีรอยประทับรูปฟันเฟืองที่ต้นแขนซ้าย ซึ่งไม่แน่ใจว่า เป็นสัญลักษณ์ที่ประทับไว้เพื่ออะไร ต่อมา พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 8 ยังคงให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอด แต่มีบางรายที่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนรอยปั๊มรูปฟันเฟือง พบว่ามี 4 คน ที่ปรากฏรอยดังกล่าวที่ต้นแขนด้านซ้าย เป็นรอยปั๊มจากการถูกปั๊มด้วยความร้อนและของเย็น เป็นลักษณะฟันเฟือง ขณะนี้มีแนวทางการสืบสวนของสาเหตุของการปั๊มในครั้งนี้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เชื่อว่าเป็นการล่าแต้มในการกระทำความผิด แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ฟันธง ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าทำด้วยสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด อดีตนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันคนหนึ่ง ซึ่งจบการศึกษามา 30 ปีแล้ว บอกว่า การปั๊มรูปฟันเฟือง เป็นความสมัครใจของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และเป็นความชอบส่วนบุคคล เหตุผลหลัก ๆ ไม่แน่ใจ แต่รู้ว่าให้เป็นไปเพื่อความสามัคคี มีความเป็นพี่เป็นน้องกัน ส่วนที่บอกว่า การปั๊มรูปฟันเฟือง เกี่ยวพันกับองค์กรอาชญากรรม หรือทำไปเพื่อล่าแต้มนั้น ไม่น่าจะใช่ เพราะตนเองก็ปั๊มรูปฟันเฟือง จบมา 30 ปีแล้ว รอยปั๊มนี้ก็ยังอยู่ ซึ่งตอนสมัครใจปั๊มรูปฟันเฟือง ไม่ได้มีเรื่องเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมหรือล่าแต้มอะไร เพราะตอนนั้นไม่ได้มีเรื่องพวกนี้ ส่วนวิธีการก็ใช้เหล็กรูปฟันเฟืองลนไฟให้ร้อนแล้วทิ่มที่แขน นี่ก็เป็นอดีตนักศึกษาช่างกลปทุมวัน ที่จบการศึกษามา 30 ปีแล้ว ยืนยันว่ารอยประทับฟันเฟือง เป็นการทำโดยสมัครใจ เพื่อความสามัคคีเป็นพี่เป็นน้อง ยืนยันไม่ใช่เป็นการประทับตราเพื่อล่าแต้ม รวบเพิ่มอีก 1 รายยิงเด็กดุสิต ส่วนกรณียิงเด็กเทคนิคดุสิต หลังจากตำรวจจับกุม นายอัครพล หรือ ยีนส์ อายุ 22 ปี และนายธนากร หรืออ๊อฟ อายุ 18 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุได้แล้วก่อนนำตัวไปฝากขังแล้วนั้น ล่าสุด ตำรวจคุมตัว นายโอม อีกหนึ่งผู้ร่วมก่อเหตุที่หลบหนีได้ที่จังหวัดภูเก็ต โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล 1 ได้ประสาน ในการที่จะควบคุมตัวไปที่ สน.ดุสิต เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม คืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาใต้ ไม่ให้ประกัน 8 อาชีวะ ข้อหาซ่องโจร เอี่ยวเหตุยิงคดี ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด ชี้คดีอัตราโทษสูง พฤติการณ์คดีร้ายแรง เกรงหลบหนี เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ยื่นคำร้องฝากขัง 8 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักศึกษาอาชีวะ กรณีคดีที่มีกลุ่มผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายธนสรณ์ หรือ น้องหยอด นักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และนางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ทำให้เสียชีวิตรวม 2 ราย ครั้งเเีกเป็นเวลา 12 วัน โดยเเยกเป็น 3 สำนวนคดีดังนี้ 1. คดีหมายเลขดำที่ ฝ 725/2566 ยื่นฝากขัง นายวุฒิพงษ์ ผลคำ, นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์, นายสหัสวรรษ ภักดีนอก, นายจิรายุส สุวรรณศุภ, นายธนากร พันทองคำ นายอภิเดช นาคประกอบ ผู้ต้องหาที่ 1 - 6 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 (ซ่องโจร) 2. คดีหมายเลขดำที่ ฝ 724/2566 ยื่นฝากขัง นายธนภัทร เกตุชาติ ผู้ต้องหาในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 (ซ่องโจร) 3. คดีหมายเลขดำที่ ฝ 723/2566 ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ยื่นฝากขังนายวรงค์ชัย กัณฑ์ศรี ผู้ต้องหา ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 (ซ่องโจร) โดยมีผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวทั้ง 3 สำนวน ศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ทั้ง 3 สำนวน เนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีร้ายแรง และพนักงานสอบสวนคัดค้าน หากปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนี จึงให้ยกคำร้อง