ช้ำใจ วัน อยู่บำรุง ถูก FC หักเหลี่ยม สูญเงินกว่า 70,000 บาท
วันที่ 21 พ.ย. 2566 เวลา 11:34 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - มาที่เรื่องว้าวุ่นคนดังอย่าง นาย "วัน อยู่บำรุง" ที่ในปัจจุบัน ผันตัวจากนักการเมืองมาเป็นเซียนพระ ล่าสุดเจอดี พลาดเสียเงินหลายหมื่นบาท เพราะไว้ใจให้ "เอฟซี" ยอมให้ดูแลเป็นธุระขายตลับพระทอง 90 เปอร์เซ็นต์ ให้จนสุดท้ายเข้าบางอ้อ ราคาที่ได้มาสุดแสนจะต่ำจนต้องมาอัดคลิประบายความในใจ ไปฟัง เป็นน้ำเสียงตัดพ้อ บอกเพราะรักจึงไว้ใจ มีแต่ความจริงใจให้ แต่อีกฝ่ายกลับตลบหลังให้เจ็บช้ำเสียได้ โดยเหตุการณ์นี้เริ่มเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้ผันตัวไปเป็นเซียนพระ อย่างที่เราบอกตอนต้น ก็ได้นำตลับทองพระเก่าที่มีอยู่ ไปขายที่ร้านทองชื่อดังย่านเยาวราช แล้วก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทาย อ้างตัว เป็นแฟนคลับตัวยง "ป๋าวัน" พร้อมอาสาจัดการธุระนำตลับทองน้ำหนักรวม 212.8 กรัม ไปขายให้ในราคากรัมละ 1,450 บาท ได้เงินมาประมาณ 308,000 บาท ซึ่ง นายวัน ก็เหมือนไม่ได้ติดใจอะไร กระทั่งเรื่องนี้ผ่านไปเกือบ 2 เดือน นายวัน ก็เพิ่งรู้ตัวว่า โดนเล่นเสียแล้ว หลังไปทำตลับทอง ที่ร้านพระ แหล่งขายพระยอดนิยมย่านงามวงศ์วาน และเซียนพระที่นั่น บอกว่า เขาก็รับซื้อตลับทองนะ ให้ราคากรัมละ 1,800 บาท นายวัน ฟังแบบนั้นแล้ว เรียกว่า เข่าทรุดเลย เพราะเมื่อคำนวนแล้ว เท่ากับว่าขาดทุนอย่างไม่น่าให้อภัย ไปประมาณ 75,000 บาท จึงมาถ่ายคลิปแชร์ประสบการณ์สุดช้ำใจลง TikTok ส่วนตัว "เซียนพระ" แนะ ซื้อกรอบ-กล่องทองร้านไหน ควรขายร้านนั้น เมื่อทีมข่าวสอบถามไปยังเซียนพระ ถึงราคาของกล่องทอง ก็ได้คำตอบว่า จริง ๆ แล้ว หากนำมาขายตามแหล่งซื้อ-ขายพระ จะได้ราคาที่สูงกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาทองด้วย ซึ่งคาดว่า ปกติร้านทองจะรับซื้อทองคำอยู่ที่ราคากรัมละ 1,800-2,000 บาท แต่ที่ร้านในคลิป ซื้อกล่องพระในราคา 1,450 บาท เพราะอาจจะต้องนำทองไปหลอมหรือขึ้นรูปใหม่ ซึ่งมีค่าแรง และอีกตัวแปรคือ ก็จะขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่อยู่ในทองคำด้วย เพราะอาจจะเป็นทองคำ 70% หรือ 90% จึงอยากแนะนำว่าการซื้อ-ขายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ตลับใส่พระ หรือกรอบพระ หากสั่งทำหรือซื้อร้านไหน ก็ควรจะขายที่นั้น ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ยังคงได้รับความนิยม ทั้งด้านการลงทุน และซื้อนำมาสวมใส่ พอเงินขาดมือ หรือ เมื่อราคาทองคำขยับขึ้น บางคนก็ต้องการขายทองคำ แต่จะขายอย่างไรให้ได้ราคา แนะนำแบบนี้ ขายทอง ต้องรู้ ไปดูข้อมูลที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค เค้าเผยแพร่ไว้ เกี่ยวกับกฎหมายการขายทองคำ นั่นก็คือ ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่องแนวทางปฏิบัติการค้าของผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทองที่เป็นธรรม ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 เมษายน 2565 ซึ่งข้อ 3 สรุปสาระสำคัญไว้ว่า "ราคาที่เป็นธรรม" คือ ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้า ต้องแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับราคาจำหน่าย หรือราคารับซื้อคืนทองคำในบริเวณที่เห็นได้ชัดเจน ในอัตราที่กำหนดตามประกาศฯ ไม่ต่ำกว่าราคาที่แสดงไว้บนหน้าร้าน สามารถคำนวณได้จากสูตร ดังต่อไปนี้ 1. ทองคำแท่ง หนัก 1 บาท ราคารับซื้อคืน คือ ราคาขายทองคำแท่งหนัก 1 บาท หักด้วยจำนวนเงิน 100 บาท 2. ทองรูปพรรณ หนัก 1 บาท ราคารับซื้อคืน จะเท่ากับ ราคารับซื้อคืนทองคำแท่ง 1 บาท หักด้วยค่าเสียหายจากการหลอมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่เกิน 5% ของมูลค่าซื้อคืนทองคำแท่ง 1 บาท นับจากวันที่ทำการซื้อขาย ตามราคาที่สมาคมค้าทองคำประกาศ ทั้งนี้ เฉพาะทองรูปพรรณที่ซื้อไปจากร้านค้าทองที่รับซื้อคืนเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากซื้อทองรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาททองคำ หากทางสาคมค้าทองคำประกาศ ราคาไว้ 30,000 บาท ดังนั้น 5% ของ 30,000 ก็จะเท่ากับ 1,500 บาท ถ้าเรานำทองรูปพรรณ 1 บาท ไปขาย ต้องได้เงินไม่ต่ำกว่า 28,500 บาท ประมาณนี้ หากร้านทองกดราคารับซื้อต่ำกว่า ที่ควรจะเป็น ก็ไม่ควรขายทอง เพราะเท่ากับเป็นการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ขณะที่ผู้ประกอบการร้านทองอาจมีความผิดตามกฎหมาย โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ คราวนี้เวลานำทองไปขาย ต้องดูด้วยว่า ทองของเราอยู่ในกลุ่มไหน เป็นทองรูปพรรณ หรือ เป็นทองคำแท่ง หากซื้อในลักษณะขึ้นรูป มีลวดลาย อันนี้ คือทองรูปพรรณ เวลาขาย ก็ต้องยึดราคาทองรูปพรรณ และแนะนำไว้ว่า ควรขายร้านเดียวกับร้านที่ซื้อมา ก่อนขายคืน ผู้บริโภคควรตรวจสอบราคาตลาด สอบถามราคาจากทางร้าน รวมถึงการหักค่าแรงหรือค่ากำเหน็จให้แน่ชัดก่อน ราคาจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการผลิตชิ้นงานรูปพรรณนั้น ๆ หากผู้บริโภคถูกปฏิเสธถึงสิทธิที่จะได้รับ ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถร้องเรียนมายัง สภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อให้ช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยได้ ขอบคุณภาพจาก : TikTok @wan_ubumrung