อ.อ๊อด ยันเป็นไปไม่ได้ ร่างทรงปู่ฤาษี อ้างสวดมนต์ทุกวันจนเทียนกลายเป็นหิน
วันที่ 14 พ.ย. 2566 เวลา 06:28 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - ที่จังหวัดกำแพงเพชร ร่างทรงปู่ฤาษี อ้างสวดมนต์ทำพิธีทุกวันนานนับปี จนสามารถขูดน้ำตาเทียนไปต้มจนกลายเป็นหินได้ เชื่อบารมีปู่ลงมาโปรดให้เป็นหินวิเศษรักษาคน แกร๊ง ๆ ๆ ฟังแล้วเหมือนเสียงของแข็งกระทบกันนี้ คือเสียงฆ้อน ที่ นายอภิวัฒน์ ร่างทรงปู่ฤาษี เจ้าของตำหนักปู่ฤาษีชีวกโกมารภัจจ์ เคาะลงไปเทียน หลังจากต้มน้ำตาเทียนแล้วกลายเป็นหินหนักเกือบ 10 กิโลกรัม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปพูดคุยกับร่างทรงปู่ฤาษีท่านนี้ ก่อนพาไปดูบริเวณต้นเทียนที่ใช้จุดสวดมนต์ทำพิธีหน้าตำหนักเป็นประจำทุกวัน ตรงนี้เป็นหม้อน้ำมนต์ นายอภิวัฒน์ หรือร่างทรง บอกว่า หลังเทียนไหม้หมดต้น น้ำตาเทียนจะกองอยู่ที่โคนต้นเทียน สะสมเป็นเวลานานนับปี จึงได้ตัดสินใจขูดน้ำตาเทียน เพื่อนำไปหล่อเป็นเทียนต้นใหม่ แต่พอต้ม ๆ ไป เทียนในหม้อกลับกลายเป็นหิน สีดำขนาดใหญ่ เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ของบารมีปู่ฤาษีที่นับถือ เพราะตนสวดมนต์ทุกวัน ร่างทรงฤาษี ยังได้พาไปดูจุดที่ใช้หม้อหล่อน้ำตาเทียนที่แกะออกมาจากฐานหน้าตำหนัก นำไปเทใส่หม้อหล่อเทียน ซึ่งก็ยังมีร่องรอยของเทียนอยู่บางส่วน โดยบอกว่าพบหินอยู่ที่บริเวณก้นหม้อ ตอนแรกเก็บหินไว้ยังไม่บอกให้ใครรู้ กระทั่ง 2 วันก่อน ปู่ฤาษีได้มานิมิตรในฝัน ว่าอยากให้เป็นของวิเศษที่สามารถช่วยเหลือคนได้ ให้นำมาเปิดเผย หากใครอยากบูชากราบไหว้ก็ยินดี แต่เรื่องนี้ อาจารย์อ๊อด หรือ ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกมาให้ข้อมูลชี้ชัดว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่น้ำตาเทียนจะกลายเป็นหิน เพราะสารส่วนประกอบของเทียนกับหินเป็นคนละชนิดกัน เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือมนุษย์ หากร่างทรงปู่ฤาษียังสงสัยหรืออยากหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ สามารถส่งก้อนหินก้อนดังกล่าวมาตรวจกับอาจารย์อ๊อดได้