อุทยานฯ ล่าตัวหนุ่มอุบลฯ โพสต์ขายนกป่า ค้นบ้านเจอนกปรอด-กางเขนดง รวม 13 ตัว

วันที่ 11 พ.ย. 2566 เวลา 11:56 น.

อุบลราชธานี เจอหนุ่มครอบครองนกป่าผิดกฎหมาย โพสต์ขายในโซเชียล อุทยานฯ เร่งล่าตัวหลังค้นบ้านเจอนกปรอด-กางเขนดง รวม 13 ตัว นกป่า วันนี้(11 พฤศจิกายน 2566) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงการเอาผิดขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายทั้งภายในประเทศและตลาดการค้าบริเวณแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนการค้าขายสัตว์ป่าคุ้มครองตามสื่อออนไลน์ว่า ได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง ซึ่งประสานงานกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ดำเนินการตรวจสอบผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Sam Surapong (สู้ต่อไปลมหายใจกุยังมี) ซึ่งโพสต์ภาพ และวิดีโอการต่อนกปรอดเหลืองหัวจุกซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยใช้เพนียดดัก และนำไปประกาศขายนก ลงในเพจชื่อ “ชมรมคนรักนกกางเขนดงอุบลราชธานี” ซึ่งเป็นเพจสาธารณะ และสืบทราบว่าเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายสุรพงศ์  เหง้าแก้ว ชาวบ้านหมู่ 1 บ้านผาแก้ว ตำกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.30 น. คณะเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลกุดลาด จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดอุบลราชธานี เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านสองหลังซึ่งอยู่ติดกัน ในท้องที่หมู่ 6 บ้านหนองมะนาว ตำบลกุดลาด อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี และเป็นบ้านที่นายสุรพงศ์ อาศัยอยู่ โดยบ้านหลังแรก พบบุคคลทราบชื่อภายหลังคือกับนางหนูแดง แสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้าน เป็นผู้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกนก ได้แก่ นกปรอดเหลืองหัวจุก จำนวน 2 ตัว นกปรอดสวน จำนวน 2 ตัว และนกปรอดคอลาย จำนวน 1 ตัว (รวม 3 ชนิด 5 ตัว) โดยนางหนูแดง ให้ถ้อยคำว่านกที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นเป็นของนายสุรพงศ์ เป็นหลานของนางหนูพร ขณะตรวจสอบนายสุรพงศ์ ไม่อยู่ไปทำงานรับจ้างที่ต่างอำเภอ ส่วนบ้านหลังที่สอง พบบุคคลทราบชื่อภายหลังคือนางสาวสมหมาย เป็นผู้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกนก ได้แก่ นกปรอดเหลืองหัวจุก จำนวน 5 ตัว นกกางเขนดง จำนวน 1 ตัว นกปรอดสวน จำนวน 1 ตัว และนกปรอดคอลาย จำนวน 1 ตัว (รวม 4 ชนิด 8 ตัว) โดยนางสาวสมหมาย ให้ถ้อยคำว่านกที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบนั้นเป็นของนายสุรพงศ์ จากการตรวจสอบบ้านทั้งสองหลังพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกนก รวม 4 ชนิด 13 ตัว ไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ป่า (ห่วงขา) และหลักฐานการอนุญาตให้ล่า ครอบครอง ค้า และเพาะพันธุ์จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชแต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำของนายสุรพงศ์ เป็นการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หลายมาตราประกอบด้วย มาตรา 12 ฐาน “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 17 ฐาน “มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 29 ฐาน “ค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปี ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางจำนวนดังกล่าว  และรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมทั้งจัดทำบันทึกเรื่องราวกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อออกหมายเรียกตัวนายสุรพงศ์ มาดำเนินคดีต่อไป โดยมอบหมายให้นายปราโมทย์ ราตรี ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้กล่าวกล่าวโทษ สำหรับสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางจำนวนดังกล่าว ขออนุมัติพนักงานสอบสวนนำไปดูแลและเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนด้านสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) และดำเนินการตามระเบียบ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่าด้วยการดำเนินการแก่สัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า และค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่า พ.ศ. 2565 จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อไป