จับขบวนการขนยาบ้าล็อตใหญ่กว่า 4 ล้านเม็ด อ้างเพิ่งทำครั้งแรก ยังไม่ได้รับค่าจ้าง
วันที่ 3 พ.ย. 2566 เวลา 17:17 น.
ภาค 1 ขยายผลจับขบวนการลักลอบขนยาบ้า ล็อตใหญ่กว่า 4 ล้านเม็ด อ้างเพิ่งทำครั้งแรก ได้รับค่าน้ำมัน 1 หมื่นบาท ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ตร.เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ว่าจ้างในประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้ (3 พ.ย.66) พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วยพล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาขนยาเสพติด พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 8 กระสอบ กระสอบละ 2,000 มัด รวมแล้วประมาณ 4,000,000 เม็ด โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผล จากวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 ได้จับกุมนายนนทวัฒน์ และนายศุภวัฒน์ พร้อมของกลางยาบ้า ประมาณ 1,600,000 เม็ด ในพื้นที่ สภ.หนองแค จังหวัดสระบุรี ต่อมาจึงทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดนครพนมมาส่งในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถบรรทุกขนาดเล็ก 4 ล้อ สีขาวเป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และจะใช้รถยนต์กระบะ 2 คัน ในการสำรวจเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันไปสังเกตการณ์ และเตรียมกำลังเข้าสกัดจับ ซึ่งกลุ่มรถยนต์ดังกล่าวได้จอดแวะพักอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ จำนวน 5 คน ได้แก่ นายสุรชาติ , นายวิรอน , นายวิรงค์ , นายณัฐสิทธิ์ , และนายพงศ์อิทธิพล จากการตรวจค้นภายในรถบรรทุก พบยาบ้าจำนวน 8 กระสอบ กระสอบละ 2,000 มัด รวมแล้วได้ประมาณ 4 ล้านเม็ด พร้อมด้วยอาวุธปืน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 14 นัด ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีในความผิด ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 มีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และแจ้งข้อหานายวิรงค์ เพิ่มเติมว่ามีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าทำเป็นครั้งแรก ยังไม่ได้รับค่าจ้าง ได้รับเพียงแค่ 10,000 บาท ซึ่งเป็นค่าน้ำมัน โดยหลังจากขนส่งสำเร็จจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งอยู่ที่หลักแสนบาท สำหรับยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ และยาบ้าที่จับได้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น มีเจ้าของเป็นคนเดียวกันอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และได้มีการว่าจ้างผ่านคนไทยให้ลำเลียงขนยาเสพติดอีกทอด โดยตำรวจสืบทราบรู้ตัวผู้ว่าจ้างแล้ว อยู่ระหว่างการขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ส่วนป้ายกรมการปกครองที่ถูกติดไว้ในรถกระบะที่ผู้ต้องหาใช้เป็นรถนำ scout นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่