ลูกสาวกำนัน หลอกแต่งงานฮุบมรดก จ.นนทบุรี

วันที่ 27 ต.ค. 2566 เวลา 04:02 น.

เช้าข่าว 7 สี - ชายอายุ 35 ปี เข้าร้องทนาย ถูกหญิงสาวในแอปพลิเคชันหาคู่หลอกแต่งงาน หลังได้สินสอดเกือบ 2 ล้านบาท ไม่ถึง 3 เดือนก็ไม่ให้หลับนอน และไล่ออกจากบ้าน เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย ชายอายุ 35 ปี นำหอบหลักฐานทะเบียนสมรส เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประทานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าถูกลูกสาวกำนันดังในจังหวัดชัยภูมิ ที่เจอผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่ คุยกันได้แค่ 1 เดือน ก็หลอกให้มาสู่ขอแต่งงานด้วยสินสอดจำนวน 2 ล้านบาท ที่เป็นเงินมรดกจากพ่อที่เสียชีวิตทิ้งไว้ให้ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่บ้านฝ่ายหญิง แต่ไม่ถึง 3 เดือน ก็ถูกบีบให้เลิกรา เช่น ให้คนในบ้านไม่คุยด้วย ไม่หาข้าวให้กิน ให้หากินเองทั้งหมดนอกจากนี้ยังไม่ยอมให้ร่วมหลับนอน และฝ่ายหญิงเสนอเงินให้ตน 50,000 เพื่อให้ไปหย่า แต่ตนไม่ยอมเพราะคิดว่ากำลังถูกหลอกให้แต่งงาน เพื่อเอาเงินสินสอด จึงได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บ้านเพรช แต่คดีไม่มีความคืบหน้าเพราะพ่อฝ่ายหญิงเป็นกำนันคนดังในพื้นที่ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม ชายคนนี้ ยังระบุอีกว่า ส่วนเหตุผลที่ตนไว้ใจภรรยา เพราะว่าหลังจากที่รู้จักกันไม่นาน ตนซึ่งมีคดีเก่าเป็นคดีมรดกของพ่อต้องใช้เงินจ้างทนายจำนวน 60,000 บาท ทางผู้หญิงก็ได้โอนเงินช่วยเหลือตน จึงเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ หลังจากนั้นไม่นานตนก็ได้คืนเงินกลับไปให้ วันนี้ที่เดินทางมาพบทนายรณรงค์ เพื่อให้ช่วยให้ฝ่ายหญิงนำเงินมาคืนตนจำนวน 300,000 บาท และตนจะยอมหย่า แล้วจบทุกอย่าง ด้าน ทนายรณรงค์ กล่าวว่ากรณีที่ฝ่ายชายอยากได้เงินค่าสร้างบ้าน โรงรถคืนนั้นต้องบอกว่าตามกฎหมายการที่เราไปสร้างบ้าน หรือ โรงรถในที่ดินของฝ่ายหญิงแบบนี้ ทางฝ่ายชายหมดสิทธิที่จะได้คืนตามกฎหมาย เพราะสิ่งปลูกสร้างจะติดไปกับที่ดิน ส่วนเงินที่นำไปลงทุนเปิดร้านขายของชำร่วมกัน  ถือว่าเป็นสินสมรสต้องแบ่งครึ่งกัน ส่วนเงินที่ฝ่ายชายได้มรดกมาแล้วนำไปฝากไว้ที่ฝ่ายหญิงฝ่ายชายสามารถเรียกร้องคืนได้ทั้งหมด