เศร้า! ยันแรงงานไทยในอิสราเอล เสียชีวิตเพิ่มเป็น 18 คน

วันที่ 10 ต.ค. 2566 เวลา 16:41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยันพบแรงงานชาวไทยในอิสราเอล เสียชีวิตเพิ่มเติมเป็น 18 คน เศร้า! ยันแรงงานไทยในอิสราเอลตายเพิ่มเป็น 18 คน ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับความรุนแรงในพื้นที่ตะวันออกกลาง ระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ซึ่งส่งผลกระทบต่อแรงงานชาวไทย ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าว่า ได้รับแจ้งว่ามีแรงงานชาวไทยในอิสราเอล เสียชีวิตเพิ่มเป็น 18 คน (รอทางอิสราเอลยืนยันข้อมูล) บาดเจ็บ 9 คน และถูกจับเป็นตัวประกัน 11 คน ส่วนผู้ลงทะเบียนขอกลับประเทศไทย มีทั้งหมด 3,862 คน และไม่ประสงค์ขอกลับ 52 คน นอกจากนี้ ทางการอิสราเอล ยังช่วยเหลือพลเรือน รวมถึงแรงงานชาวไทยออกมาจากจุดเสี่ยงภัย และพาไปส่งทำงานกับนายจ้างใหม่ เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงชีพ ซึ่งเรื่องนี้เราได้แจ้งอิสราเอลไปแล้ว เรื่องให้แรงงานไทยทำงานต่อ ในสภาวะตึงเครียดแบบนี้ ส่วนคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศเป็นล็อตแรก เป็นผู้บาดเจ็บอาการปลอดภัยแล้ว 15 คน โดยจะเดินทางกลับไทย ด้วยสายการบินอิสราเอล ออกเดินทางช่วงค่ำวันที่ 11 ตุลาคม และถึงไทยวันที่ 12 ตุลาคม เวลา 10.35 น. โดยมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานรอต้อนรับ นอกจากนี้ในที่ประชุม ยังมีการคุยเรื่องเตรียมส่งเครื่องบินกองทัพอากาศ ไปรับผู้อพยพ ประกอบด้วย เครื่องบินแอร์บัส 340 กำหนดไว้ว่าจะเดินทางถึงเทลอาวีฟ ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เบื้องต้นรับผู้โดยสารได้ประมาณ 140 คน ตอนนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าประเทศต่าง ๆ ส่วนของอิสราเอลอนุญาตแล้ว หลังจากนี้ กองทัพอากาศจะเตรียมเครื่องบิน C130 มาร่วมปฏิบัติการด้วย รวมถึงวันที่ 18 ตุลาคม ยังมีเที่ยวบินที่ได้ประสานเอาไว้ สามารถรับผู้โดยสารได้ 80 คน โดยผู้อพยพที่จะมาขึ้นเครื่อง จะเน้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยก่อน โดยการอพยพมีข้อจำกัด เรื่องการรวบรวมแรงงานชาวไทย มาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่เทลอาวีฟ ก่อนเคลื่อนย้ายอพยพในคราวเดียวกัน ยันแรงงานไทยชุดแรกกลับประเทศ 12 ต.ค.นี้ ขณะที่ นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่าแรงงานชาวไทยจะเดินทางกลับประเทศวันที่ 12 และ 19 ตุลาคมนี้ โดยทางการไทยพยายามทำทุกวิธี เพื่อนำเครื่องบินพาณิชย์ไทย และเครื่องบินทหาร เดินทางเข้าใกล้น่านฟ้าอิสราเอลให้ได้มากที่สุด แจงปมขายต่อ แรงงานไทย หนีสงครามในอิสราเอล ขณะที่ นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ วิดีโอคอลอัปเดตสถานการณ์ว่า ตอนนี้อิสราเอลอยู่ในภาวะสงคราม มีการประกาศโซนพื้นที่เป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ฉะนั้นการช่วยเหลือจะเข้าไปได้ทีละโซน เบื้องต้นคนไทยล็อตแรก 15 คน จะเดินทางกลับประเทศ โดยสถานทูตจะส่งรถไปรับ หรือให้นายจ้างมาส่ง ก่อนกำหนดขึ้นเครื่องประมาณ 4 ชั่วโมง พร้อมตั้งเคาน์เตอร์ที่สนามบิน และออกเอกสารเดินทางให้ ทั้งหมดจะได้เดินทางกลับไทย ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย สนามบินปิด ขณะนี้มีคนไทยหลายพื้นที่หวาดกลัว แจ้งความประสงค์ขอเดินทางกลับไทย แต่สถานทูตขอให้ความสำคัญกับแรงงานที่อาศัยอยู่ในจุดที่มีผลกระทบสูงสุดก่อน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแรงงานไทย ถูกบังคับให้ทำงาน หรือขายต่อให้นายจ้างคนอื่น นางสาวพรรณนภา ชี้แจงว่าจากการติดต่อทางการอิสราเอล ได้รับข้อมูลว่าเป็นการนำแรงงานไทยออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย และเนื่องจากอิสราเอลเป็นประเทศเล็ก ๆ ไม่ได้มีพื้นที่มากนัก ฉะนั้นการย้ายไปฝากที่โมชาฟ ซึ่งเป็นจุดปลอดภัย ถือเป็นการย้ายงาน หรือย้ายสถานที่ทำงาน แต่แรงงานอาจมีความรู้สึกว่าเพิ่งหนีภัยสงครามออกมา แล้วทำไมต้องทำงานเลย แต่อิสราเอลมองว่าการให้แรงงานได้ย้ายงาน จะทำให้มีรายได้ในการดำรงชีพต่อ ส่วนการนำศพแรงงานชาวไทยกลับประเทศนั้น นางสาวพรรณนภา ระบุว่า ตอนนี้ภารกิจเร่งด่วนของอิสราเอล คือ ช่วยผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ และพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ที่ต้องใช้เวลา และไม่สามารถนำร่างกลับได้โดยเร็ว เมียใจแทบขาด! ผัวถูกยิงเสียชีวิตในวันเกิดลูก จ.น่าน จังหวัดน่าน ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่ 7 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน พบกับ นางสาวสุนิตา ภรรยาของนายธวัชชัย หนึ่งในแรงงานไทยเสียชีวิตที่อิสราเอล โดย นางสาวสุนิตา เล่าทั้งน้ำตาว่า ได้วิดีโอคอลคุยกับแฟนครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดลูกชาย อายุครบ 2 ขวบพอดี โดยแฟนได้อวยพรวันเกิดลูก และสัญญาว่า ถ้าเงินเดือนออก จะซื้อของเล่นเป็นของขวัญให้ลูก แต่ระหว่างพูดคุยได้ยินเสียงปืน และเสียงระเบิดดังเป็นระยะ โดยแฟนเล่าว่าจรวดมาตกที่ไหนบ้าง ก่อนจะขอตัวไปหาอะไรกิน แล้วจะกลับมาคุยใหม่ ซึ่งนั่นเป็นสายสุดท้ายที่ได้คุยกับแฟน เพราะหลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก จนวันที่ 9 ตุลาคม เพื่อนของแฟนแจ้งว่า หลังจากวางโทรศัพท์ในวันนั้น ระหว่างนั่งกินข้าวกันอยู่ กลุ่มติดอาวุธได้บุกเข้ามาและกราดยิงทันที โดยแฟนของตนเองถูกยิงเข้าที่ขาและเอว ยังไม่เสียชีวิต ก่อนจะถูกลากไปยิงซ้ำกลางศีรษะ นางสาวสุนิตา บอกว่า ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เพราะแฟนเป็นเสาหลักของครอบครัว ได้กู้หนี้ยืมสินเพื่อไปทำงานที่อิสราเอล หวังเก็บเงินมาสร้างอนาคต แต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตแบบนี้ ญาติฝันลางร้าย! แรงงานไทยถูกยิงในอิสราเอล จ.สกลนคร จังหวัดสกลนคร บรรดาญาติ ๆ และเพื่อนสนิท ต่างพากันรู้สึกช็อก เมื่อทราบข่าวว่า นายนันทวัฒน์ หรือนุ๊กเกอร์ หนึ่งในแรงงานชาวไทย ถูกยิงเสียชีวิตที่อิสราเอล แม้จะต้องรอผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการเสียก่อน แต่เพื่อนร่วมงานหลายคนยืนยันว่า นายนันทวัฒน์ ถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่ นางสาวพรพรรณ ภรรยาของนายนันทวัฒน์ ยังรู้สึกตกใจไม่หาย พร้อมระบุว่าถ้าสามีเสียชีวิตจริง ก็อยากวิงวอนให้หน่วยงานต่าง ๆ ช่วยนำศพกลับมายังบ้านเกิดด้วย นอกจากนี้ ญาติ ๆ ยังมีการเปิดคลิปเรียกน้ำตาของนายนันทวัฒน์ ที่มักจะวิดีโอคอลคุยกับสุนัขสายพันธุ์บีเกิล ชื่อน้องมีตังค์ อยู่เป็นประจำ โดยนางขวัญใจ ป้าของนายนันทวัฒน์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ฝันไม่ดี ฝันว่าตนเองทำฟันหล่นเป็นขี้เถ้า แต่ไม่ได้บอกใคร และไม่คิดว่าความฝันเหล่านี้จะกลายเป็นลางร้ายในที่สุด ญาติเศร้ารู้ข่าวลูกเสียชีวิต จ.อุดรธานี ส่วนกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวแรงงานชาวไทย 6 คน ที่อาศัยอยู่ติดกับฉนวนกาซา ถูกยิงเสียชีวิต โดยมีรายงานอ้างว่า ในจำนวนนั้น 4 คน เป็นแรงงานชาวอุดรธานีนั้น ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหนองบัวแดง ตำบลหนองไผ่ อำเภอหนองหาน โดยมี 2 ครอบครัวระบุว่าเป็นญาติผู้เสียชีวิต จากการสอบถาม นางวรรณ แม่ของนายธีระพงษ์ แรงงานไทยในอิสราเอล เปิดเผยว่า ลูกชายไปทำงานเป็นเกษตรที่อิสราเอล มานานเกือบ 3 ปี โดยลูกชายตั้งใจจะลาพักร้อนกลับบ้านในวันที่ 15 ตุลาคมที่จะถึงนี้ แต่สุดท้ายมารู้ข่าวว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต ในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ รู้สึกเสียใจมาก ขณะที่ นางเพ็ญ มารดาของนายไกรสร แรงงานไทยอีกคน บอกว่า ลูกชายไปทำงานเลี้ยงวัวและไก่ที่อิสราเอลจะครบ 5 ปีแล้ว และมีกำหนดเดินทางกลับบ้านมาบวชช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยระหว่างเกิดเหตุ ยังคงหวังว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อวานนี้ หลานชายทำงานที่อิสราเอลเหมือนกัน โทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ทำให้รู้สึกเสียใจอย่างมาก จึงอยากให้ทางการไทยช่วยนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน