การรถไฟฯ เปิดเดินรถในเส้นทางสายเหนือ ช่วงสถานีแก่งหลวง - บ้านปิน จังหวัดแพร่ได้ตามปกติ

วันที่ 1 ต.ค. 2566 เวลา 19:43 น.

การรถไฟฯ เปิดเดินรถในเส้นทางสายเหนือ ช่วงสถานีแก่งหลวง - บ้านปิน จังหวัดแพร่ได้ตามปกติ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. หลังเกิดเหตุรถไฟตกราง เพราะน้ำท่วมในเส้นทางภาคเหนือ วันนี้ (1 ต.ค. 66) นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ ตกรางระหว่างสถานีแก่งหลวง - บ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในเส้นทางภาคเหนือนั้น โดยเมื่อช่วงเช้าของของวันนี้ (1 ตุลาคม 2566) นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และผู้บริหารการรถไฟฯ ได้เดินทางลงพื้นที่สถานีแก่งหลวง - บ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ในการกู้ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ ที่เกิดตกราง และการดำเนินการซ่อมแซมทางรถไฟที่ชำรุดเสียหายจากเหตุน้ำท่วม โดยล่าสุดสามารถประกาศเปิดเดินขบวนรถในเส้นทางสายเหนือ ช่วงสถานีแก่งหลวง - บ้านปิน จังหวัดแพร่ ได้ตามปกติแล้ว ตั้งแต่เวลา 18.00 น. สำหรับการเดินทางลงพื้นที่ของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าการรถไฟฯ ครั้งนี้ ได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่กำชับให้เร่งดูแลผู้โดยสารที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมและรถไฟตกราง นายเอกรัช กล่าวว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้กำชับให้การรถไฟฯ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ฝ่ายการช่างโยธา และนายสถานีทุกพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนตกอย่างใกล้ชิด โดยให้เฝ้าระวังเพื่อประเมินและแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม ตลอดจนให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ มาตรการด้านความปลอดภัย อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการเดินทางแก่ผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัย ในส่วนของขบวนรถที่ให้บริการในเส้นทางสายเหนือ สามารถให้บริการตามปกติ แต่อาจส่งผลให้ขบวนรถบางขบวนเกิดความล่าช้าบ้าง การรถไฟฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 หรือ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง.