กลุ่มผู้พิการไม่เห็นด้วยเพิ่มสลากดิจิทัล ยื่น 3 ข้อเรียกร้องถึงนายกฯ แก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล
วันที่ 21 ก.ย. 2566 เวลา 14:52 น.
วันนี้ (21 ก.ย. 66) ที่ กระทรวงการคลัง กลุ่มผู้พิการในนามของแนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลากใบ กว่า 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล นายสายยนต์ โอษฐ์งาม ประธานแนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลากใบ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่จะยื่นให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา มี 3 ข้อ เรียกร้อง คือ 1.ขอความเป็นธรรมคืนโควตาที่ถูกตัดสิทธิ์ก่อนหน้านี้ โดยไม่เป็นธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้โควตาของผู้พิการจะได้คนละ 10 เล่ม แต่โดนตัดไปบางคน เหลือ 3-5 เล่ม 2.แนวร่วมองค์กรพิทักษ์สิทธิ์ผู้ค้าสลากใบ ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มสลากดิจิทัล ซึ่งเป็นการมอมเมาประชาชนอย่างร้ายแรง และมีผลกระทบกับผู้ค้าสลาก และ 3.ขอให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบอาชีพค้าสลากได้มีโควตา นายสายยนต์ ยังฝากถึงนายกรัฐมนตรี ว่า ท่านนายกฯ มาจากประชาธิปไตย มาจากการเลือกตั้ง ท่านเคยพูดไว้ว่าจะให้ความเสมอภาคกับประชาชนทุกคน เพราะฉะนั้นวันนี้อยากฝากว่า เบื้องต้นอยากให้ดูแลผู้ประกอบอาชีพการค้าสลากด้วย การขอให้โควตาของพวกเรากลับคืนมา และระบบดิจิทัลอยากจะให้อยู่แค่นี้ ไม่อยากให้เพิ่มมากไปกว่านี้ หรือถ้าเพิ่มมากกว่านี้ แต่ขออย่ารวมชุดมากไปกว่า 5 ใบ ซึ่งพวกเราไม่มีเจตนาที่จะขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา 80 บาท แต่ว่าเหตุการณ์บังคับ เพราะเรามีสลากน้อย ก็ต้องไปซื้อจากพ่อค้าคนกลางมาขาย หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว ทำให้ต้องจายเกินราคา อย่างไรก็ตาม การยื่นหนังสือในวันนี้ของกลุ่มแนวร่วมองค์กรพิทักษ์ศิษย์ผู้ค้าสลากใบ จะมาฟังคำตอบเรื่องการแก้ปัญหาสลากฯอีกครั้งในวันที่ 25 ก.ย. นี้ ที่กระทรวงการคลัง หากยังไม่ได้คำตอบ ก็จะปักหลักชุมนุมใหญ่ อยู่ยาว จนกว่าจะได้รับคำตอบในการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลสำหรับผู้พิการ ขณะที่ นายอำนวย กลิ่นอยู่ ประธานสมาพันธ์คนพิการผู้ค้าสลากประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาสลากฯ เป็นปัญหาที่สะสมมานาน ที่ผ่านมาคนพิการและผู้ด้วยโอกาสเคยได้รับโควตาสลากคนละ 10 เล่ม ต่อมาในรัฐบาลที่ผ่านมา มีการปรับลดจำนวนโควตาสลากฯลง และยังมีการนำสลากฯใบไปจำหน่ายในระบบดิจิทัล ทำให้จำนวนสลากฯไม่เพียงพอ นอกจากนี้การรวมชุดสลากฯ ทำให้เกิดการกระจุกตัวของรางวัล และถือว่าเป็นการมอมเมาประชาชน ขณะที่สำนักงานสลากฯมีกฎระเบียบ ไม่ให้มีการรวมชุด แต่กลับพบว่าการจำหน่ายสลากฯในระบบดิจิทัลมีการรวมชุดได้ ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ค้าสลากใบ จึงฝากถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กำกับดูแลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้เข้ามาแก้ปัญหาที่กล่าวมานี้ และขอให้เห็นใจผู้พิการ ที่ยึดอาชีพค้าสลากฯเป็นอาชีพหลัก ไม่ใช่เป็นอาชีพเสริม และขอให้มีการเพิ่มสลากฯให้เพียงพอต่อความต้องการ