หมอสมรส แชร์ประสบการณ์เป็นมะเร็งไทรอยด์ โชคดีกว่าถูกรางวัลที่ 1 หมอควรจะตายไปแล้ว 2 รอบ

วันที่ 19 ก.ย. 2566 เวลา 14:49 น.

หมอสมรส แชร์ประสบการณ์เป็นมะเร็งไทรอยด์ โชคดี 9 เด้ง โชคดีกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง 17 ใบ 102 ล้าน เพราะควรจะตายไป 2 รอบแล้ว เตรียมตัวตายทุกวัน เต็มร้อยกับคนไข้ กับคุณหมอที่มาปรึกษา และกับงานวิชาการ เพราะอยากรีบถ่ายทอดก่อนจะตาย หมอป่วยมะเร็ง นพ. สมรส พงศ์ละไม (ก้อนอิฐ) แพทย์ประจำศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งได้พลังใจจากเพจสู้ดิวะ และเพจโชคดีที่เป็นมะเร็ง จึงแชร์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในฐานะที่เป็นหมอและคนไข้มะเร็งเหมือนกัน เพื่อเป็นข้อคิดแบ่งปันไปถึงบุคคลอันเป็นที่รัก โดยคุณหมอระบุว่า หมอโชคดีกว่า ถูกรางวัลที่หนึ่ง 17 ใบ 102 ล้านบาท โชคดีครั้งที่ 1 หมอสมรส เป็นหมอเฉพาะทางด้านฟื้นฟู รักษาคนไข้อัมพาตเยอะมาก จึงกลัวว่าจะมีอะไรในหัวไหม ยิ่งไปเห็น "พี่อิท" Ittichai Sakarunchai (นพ.อิทธิชัย ศักดิ์อรุณชัย) คุณหมอผ่าตัดสมองโพสต์เรื่องเส้นเลือดโป่งพองแตกในสมอง จึงตั้งใจไปตรวจสแกนสมอง MRI MRA ว่ามีระเบิดเวลาซ่อนในหัวเราไหม เป็นโชคดีครั้งที่ 1 เพราะถ้าไม่เห็นโพสต์ของ "พี่อิท" คงไม่คิดจะตรวจ โชคดีครั้งที่ 2 หมอสมรสได้ติดต่ออาจารย์เดชา คุณหมอผ่าตัดสมองที่ รพ.กรุงเทพพัทยา ได้รับคำแนะนำให้ทำเป็นแพ็กเกจ stroke screening program เพราะจะดูเส้นเลือดแดงที่คอด้วย ก็เลยได้ทำอัลตราซาวด์ที่คอ ถ้าอาจารย์เดชาไม่แนะนำแพ็กเกจ ก็คงไม่ได้ตรวจ โชคดีครั้งที่ 3 อาจารย์ดิว (Wittawat Takong Interventionist) อัลตราซาวด์ที่คอให้ เส้นเลือดดีมาก แต่มีก้อนที่คอ มีโอกาสสูงมากกว่า 90% ที่จะเป็นมะเร็ง คงต้องเจาะชิ้นเนื้อต่อ ในทางการแพทย์ เราเรียนการบอกข่าวร้ายกับคนไข้มา แต่ไม่คิดว่าจะต้องเจอกับตัวเองเพราะก่อนหน้านี้แข็งแรงมากๆ โดยคนไข้จะมีกลไก 5 อย่างหลักๆ 1.ปฏิเสธความจริง 2.โกรธ 3. ต่อรอง 4.ซึมเศร้า 5.ยอมรับ หมอสมรสจึงข้ามไปขั้นยอมรับข่าวร้ายเลย ตรวจเร็วที่สุด อาจเพราะเป็นลิ่มเลือดอุดตันในปอดมาก่อน เจ็บหน้าอกทรมานอย่างมาก เป็นมะเร็งอีกก็เลยเข้าใจได้ โชคดีครั้งที่ 3 ถ้าอาจารย์ดิวไม่ใช่คนละเอียด ไม่ได้ตั้งใจดูให้ อาจจะไม่ทราบ โชคดีครั้งที่ 4 ผลชิ้นเนื้อเป็นมะเร็งไทรอยด์ 2 ประเภทรวมกัน พอเกิดในผู้ชายมันมีโอกาสรุกรานมากกว่าที่เกิดในผู้หญิง ตอนนั้น รีบหาหมอผ่าตัดว่าจะให้อาจารย์ท่านไหนผ่าดี ต้องผ่าเร็วที่สุดที่ทำได้ อาจารย์ก้อย endocrine แนะนำอย่างละเอียดและขู่ว่ารีบผ่า ห้ามรอ ห้ามประมาท  หมอจึงได้รับการผ่าตัดภายใน 2 สัปดาห์ และโรงพยาบาลก็ช่วยดูแลอย่างดี โชคดีครั้งที่ 4  ถ้าไม่ได้ พี่ๆ คุยกับป๋าให้ อาจไม่ได้ผ่าเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ทำงานที่ รพ.กรุงเทพพัทยา ก็คงไม่เร็ว และพี่ๆ น้องๆ ดูแลดีขนาดนี้ สำหรับสาเหตุของมะเร็งไทรอยด์ เช่น - การสัมผัสรังสี เช่น คนไข้มะเร็งฝังแร่ กลืนแร่มา แล้วเราเดินผ่าน, หมอที่ทำงานกับสารทึบสี, กินอาหารปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี, สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลหรือถูกเผา - ได้รับไอโอดีนมากเกินไป (เช่น เกลือเสริมไอโอดีน) หรือการขาดไอโอดีน - การได้รับฮอร์โมนที่มากเกินไป - ความอ้วน - เนื้อแดง อาหารโปรเซส (ไส้กรอก กุนเชียง แหนม แฮม) - การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ โชคดีครั้งที่ 5  ถ้าไม่รีบผ่า มะเร็งน่าจะรุกรานไปลึก อาจกินหลอดลมหรือหลอดอาหาร ยากขึ้นมาก ตอนผ่าตัด พบว่าตัวมะเร็งกำลังไปแตะกล้ามเนื้อด้านหลังแล้ว ดูเกรี้ยวกราดรุกรานจริงๆ ไม่ได้ดูง่ายเหมือนมะเร็งไทรอยด์คนอื่นๆ ถ้าผ่าช้าไปอีกเดือน อาจจะกินลึกและผ่ายากกว่านี้มาก โชคดีครั้งที่ 6 หมอสมรสต้องหาที่กลืนแร่ไอโอดีน 131 ซึ่งเป็นแร่กัมมันตภาพรังสี โดย “พี่เบิร์ด คมวุฒิ” ช่วยติดต่ออาจารย์กุ้ง Nuclear Med ที่รามาฯ ช่วยดูแล ทำให้ได้กลืนแร่เร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ ถ้าพี่เบิร์ดไม่แนะนำให้ คงกลืนแร่ช้ากว่านี้มาก โชคดีครั้งที่ 7 หมอสมรสบอกว่า ใช้ได้แต่สิทธิ์ 30 บาท เนื่องจากประกันไม่รับทำจากโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอดเมื่อ 4 ปีก่อน หมอได้ติดต่อไปตามสิทธิ์โรงพยาบาลต้นสังกัด ต้องเดินเรื่องหลายต่อและเอกสารเยอะมากๆ บังเอิญปรึกษาพี่ๆน้องๆเพื่อนๆหมอสงขลานครินทร์ จนไปโทรคุยกับพี่แกน Sx ซึ่งแนะนำว่าตอนนี้พึ่งเริ่มมีโครงการ Cancer Anywhere สามารถใช้สิทธิ์ได้ โชคดีครั้งที่ 8 หมอสมรส เล่าต่อว่าจากนั้นก็ไปแอดมิตเพื่อกลืนแร่ไอโอดีน 131 เป็นแคปซูลขนาดใหญ่นิดนึง ชิ้นเดียว แต่ถูกใส่มาในกล่องตะกั่วหนัก 10 กิโลกรัม หลังกินมีคลื่นไส้ มึนหัว นอนไม่หลับอยากจะอาเจียน ช่วงนั้นมี PM 2.5 เต็มไปหมด ทรมานมากๆ ห้ามเจอใครเลย 2 สัปดาห์ ตอนนั้นภูมิคุ้มกันตกและมีติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ฉี่เป็นเลือดสีชมพู แสบสุดๆ กลั้นปัสสาวะไม่ได้ กินยาอยู่ 2 สัปดาห์จนหายขาด ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเป็นติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ สแกนหามะเร็งหลังกลืนแร่ พบการแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองใกล้ๆ แต่ยังไม่แพร่ไปอวัยวะอื่นๆ โชคที่ครั้งที่ 8 ถ้าพี่จิมมี่ไปอยู่วัดในป่า (พี่เป็นสายธรรมะ) ก็คงทรมานกว่านี้มาก โชคดีครั้งที่ 9 ระหว่างที่เป็นมะเร็ง ผ่าตัด และกลืนแร่หลายเดือนนั้น หมอสมรส บอกว่าโดนหมอปลอมและบริษัทอาหารเสริมโอ้อวดโฆษณาเกินจริง ฟ้องว่าหมิ่นประมาทเค้า ยิ่งเพิ่มความเครียดและทำให้สุขภาพกายสุขภาพใจแย่มากๆ ต้องรวบรวมหลักฐานทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ยังผ่าตัดมะเร็ง ติดต่อเพื่อนตำรวจ ทนาย อัยการ ต้องติดต่อขอเอกสารจากแพทยสภา ติดต่อศาล เพื่อให้กระทบร่างกายน้อยที่สุด ขณะนั้นไม่มีต่อมไทรอยด์แล้ว ร่างกายมีภาวะไทรอยด์ต่ำมากๆ ท้องอืด ปวดหัว ทรมานสุดๆ โชคดีที่มีกัลยาณมิตร ทำให้ชนะคดี จริงๆ ฟ้องอาญาและแพ่งกลับได้ หมอปลอมจะติดคุก บริษัทอาหารเสริมจะล้มละลาย แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงรักษามะเร็ง ก็เลยหยุดพักร่างกายจิตใจไปก่อน เจริญเมตตาเยอะๆ “ผมโคตรโชคดีมากๆ โชคดี 9 เด้ง ผมว่าโชคดีกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง 17 ใบ 102 ล้านอีก เพราะผมควรจะตายไป 2 รอบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขียนมา เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ มีเรื่องเจ็บปวดต้องฝ่าฟันอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนถึง ภาวะไทรอยด์ต่ำ TSH 86  ซึมเศร้าบ้าง ขยับตัวช้าเป็นสล็อต จนมาถึงตอนนี้ที่ภายนอกผมอาจดูแข็งแรง สูงใหญ่ สดใส ทันสมัย พลังงานล้น ไปบรรยายดูเท่ๆ เป็นหมอที่เก็บรายละเอียดเยอะ แต่ภายในผ่านอะไรมาเยอะเลย” หมอสมรสระบุ หมอสมรส บอกด้วยด้วยว่า หมอพูดถึงความตายบ่อยๆ เตรียมตัวตายทุกวัน ผมเป็นลิ่มเลือดอุดตันในปอดตั้งแต่ 4 ปีก่อน ต้องกินยาละลยลิ่มเลือดทุกวัน ใช้รถคันเดิม 12 ปี อยู่แบบสมถะๆ แต่งตัวชุดขาวห่มขาวทำงาน ได้เตือนใจตัวเอง เต็ม 100 กับคนไข้ อธิบายเยอะจนเสียงแหบ เต็ม 100 กับคุณหมอที่มาปรึกษา เต็ม 100 กับงานวิชาการ เพราะอยากรีบถ่ายทอดก่อนจะตาย  ไปเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆ จากยุโรป แล้วนำมาช่วยคนไทย มาสอนหมอไทย ไม่ชอบการโฆษณาเกินจริง ไม่ชอบคนขี้โม้หรือโกหก จริงใจ ตรงไปตรงมา อะไรไม่เก่งก็บอกเลย ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรา มีอะไรอยากเตือนก็เตือนเลย จนอาจจะดูดุดันเกินไปสำหรับวัฒนธรรมไทยบางคน ลดค่ารักษาลง เพราะอยากช่วยคนได้มากขึ้น ฟื้นฟูได้นานพอที่จะได้ผลชัดเจน และเปลี่ยนชีวิตคนไข้ได้ ชอบไปคอมเมนต์ในเพจอื่นๆ บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เพราะอยากให้คนไทยมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เคยคิดอยากลง สส.ด้วยนะ แต่น่าจะเครียดกว่าเดิมมาก หมอสมรส ทิ้งท้านว่า มีความฝันก่อนตาย 3 อย่าง 1) สนับสนุนทางวิชาการ ช่วยทำงานวิจัย เพื่อพัฒนา TMS (เครื่องกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) PMS, TPS  หรือ innovation อื่นๆ ได้ถูกบรรจุเป็นมาตรฐานการรักษาที่ช่วยคนไข้ได้จริง  บนหลักฐานทางการแพทย์จริงๆ ไม่ใช่แฟชันความหวือหวาหรือการตลาดโฆษณาเกินจริง 2) ทำองค์กรในฝันที่มี DNA แบบเรา เน้นงานนวัตกรรมวิชาการ เน้น DNA transform digital, Ai, global citizen, ikigai-rinen ยั่งยืนอยู่ต่อไปแม้ไม่มีผมแล้ว 3) อนัตตาโสดาบัน, พุทธวิทยาศาสตร์ Scientific Buddhism อาจไปบวชหรืออยู่เป็นฆราวาส ขอบคุณนะครับที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ โชคดีจังที่มีเพื่อนดีๆ แบบทุกคน หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์จากเรื่องราวความเจ็บปวดของผมบ้างนะครับ และเตือนใจคนที่เรารัก