ศิธา งง บินไปต่างประเทศ 10 วัน กลับมาประเทศไทยเปลี่ยนไป ลั่น ทุกฝ่ายหันมาจูบปาก ฮั้วกันดื้อๆ
วันที่ 4 ก.ย. 2566 เวลา 09:30 น.
ศิธา งง บินไปต่างประเทศ 10 วัน กลับมาประเทศไทยเปลี่ยนไป ลั่น ทุกฝ่ายหันมาจูบปาก ฮั้วกันดื้อๆ สลายขั้ว ก้าวข้ามความขัดแย้ง จัดสรรแบ่งเค้ก ครม. ไม่เห็นหัวประชาชน (4 ก.ย. 66) น.ต.ศิธา ทิวารี หรือผู้พันปุ่น สมาชิกของพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "น..ต.ศิธา ทิวารี – Sita Divari” หลังจากบินไปต่างประเทศ 10 วัน ลั่น ประเทศไทยเปลี่ยนไป โดยระบุข้อความว่า "บินมา ตปท.10วัน ประเทศไทยเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม นึกถึง ความขัดแย้ง ทางการเมือง รัฐประหาร 2 ครั้ง พาประเทศถอยหลัง อยากถามแทนคนไทย กูได้ไรบ้าง(วะ)? เกือบ20ปีที่ผ่านมา มีสารพัดม็อบจาก 2 ขั้วอำนาจ ถ้าไม่ใช่พรรคการเมืองจัดตั้งมา ก็จะเป็นนอมินีของกลุ่มคนดีย์ ที่ผูกขาดความรักชาติศาสน์กษัตริย์ คอยหนุนหลังอยู่ ปิดแยกราชประสงค์, ปิดทำเนียบรัฐบาล, ปิดสนามบิน, Shut Down Bangkok, ขัดขวางการเลือกตั้ง จัดแม่งสารพัดม็อบ ประชาชนต้องสังเวยชีวิตนับ100 บาดเจ็บนับ1,000 พิการอีกเพียบ นักท่องเที่ยวหดหาย ธุรกิจSME เจ๊งระเนระนาด ตลอด 20ปีที่ผ่านมา อยู่ๆผู้มีอำนาจจากทุกฝ่าย หันมาจูบปาก ฮั้วกันดื้อๆ จับคนทุกประเภทมาเทรวม ภายใต้แคมเปญ สลายขั้ว+ก้าวข้ามความขัดแย้ง จัดสรรแบ่งเค้ก ครม.แบบไม่เห็นหัวประชาชน ทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาให้พรรคการเมือง จัดตั้งตามโผนายทุนใหญ่ ใครดูแลจ่ายตังค์ให้พรรคไหน ก็ได้กระทรวงที่เอื้อประโยชน์ให้ตนไปครอง คำถามคือ ทั้งก่อม็อบ ทั้งยึดอำนาจรัฐประหารถึง 2ครั้ง ปั่นหัวประชาชนให้ฆ่ากันเอง สร้างความขัดแย้ง พาคนไปตาย พาประเทศถอยหลังไปหลายสิบปี ทุกฝ่ายทำร้ายประเทศไทยขนาดนี้ เมื่อมีโอกาสบริหารบ้านเมือง ทำไมไม่ทำการเมืองให้ดีขึ้น กลับทำให้มันดูแย่ลง แย่มากกว่าทั้งก่อนและหลังรัฐประหาร จะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร ?"