เร่งทวงคืนตำแหน่ง “เจ้าสมุทร” กลับสู่ประเทศไทย “เศรษฐา” เดินหน้าแก้ประมงผิดกฏหมาย
วันที่ 1 ก.ย. 2566 เวลา 14:09 น.
เร่งทวงคืนตำแหน่ง “เจ้าสมุทร” กลับสู่ประเทศไทย “เศรษฐา” เดินหน้าแก้ประมงผิดกฏหมาย ปลดล็อกแรงงาน และ แก้ไขกฎหมายไม่เป็นธรรม วันนี้( 1กย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ซึ่งรวมถึงบรรดาผู้ที่คาดว่าจะได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี หลายคน เช่น นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ร่วมลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน และ ภาคการประมง ณ ท่าเทียบเรือโรงน้ำแข็งศิริไพโรจน์ จ.สมุทรสงคราม สืบเนื่องจากกรณีที่สหภาพยุโรปประกาศให้ประเทศไทย เป็นประเทศที่ทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ( Illegal, Unreported and Unregulated Fishing :IUU Fishing) ชาวประมง จึงเสนอประเด็นปัญหาหลายด้าน เช่น ขอให้แก้ไขการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในเรือประมง ช่วยอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนการขออนุญาตการใช้แรงงานต่างด้าว ขอให้แก้ไขกฎหมายการประมง ที่กำหนดโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ เช่น ในขั้นตอนการลำเลียงสัตว์น้ำ ต้องมีการแสดงเอกสารรายชื่อแรงงานที่ลงเรือ หากมีรายชื่อแรงงานผิดคนเดียว จะถูกปรับไม่ต่ำกว่าแสนบาท ถึงนับล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดเรือ ขอให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน แก้ปัญหาการประมง และ ขอให้ยกเลิกการติดตั้งเครื่องวิทยุคมนาคมสำหรับเรือประมง (วิทยุขาวดำ) ซึ่งไม่มีความจำเป็น เป็นต้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการออกกฏหมาย เพื่อปฎิบัติตามกฏ IUU Fishing ไทยเคยส่งออกสัตว์ทะเลคิดเป็นมูลค่า 350,000 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบัน ประเทศไทยต้องนำเข้าสัตว์ทะเลเพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่า 150,000 ล้านบาทต่อปี เบื้องต้น นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย จะเริ่มศึกษาการปลดล็อคปัญหาด้านแรงงาน เฉพาะกลุ่มการประมงก่อน โดยมีแนวคิดจะทำ One stop service เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวประมง งานเอกสารที่ยังเป็นกระดาษ อยากให้ใช้ระบบออนไลน์ทั้งหมด เพื่อจะได้สะดวกขึ้น เรื่องใดที่สามารถดำเนินการได้ จะทำก่อน อาจจะทำไม่ได้ในคราวเดียวทั้งหมด เพราะยังมีเรื่องกฎกระทรวง กรม ที่จะต้องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ส่วนกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการประมง ที่ตกไป 13 ฉบับ มั่นใจว่าจะแก้ไขได้ ฝากร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่ ปัญหาใหญ่มากมาย ต้องแก้ไขให้ทันเวลา ส่วนการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทั้งเรื่องการบังคับติดตั้งวิทยุขาว ดำ บนเรือ ซึ่งไม่มีความสำคัญ อาจจะมีการพิจารณายกเลิก รวมถึงจะขอเปิดการเจรจาระหว่างประเทศกับอินโดนีเซียในการเปิดน่านน้ำอินโดนีเซีย เนื่องจากอินโดนีเซียมีทรัพยากร ส่วนไทยมีความรู้ความสามารถในการทำการประมง หากจัดสรรกันอย่างลงตัว จะเดินไปข้างหน้าร่วมกันได้ง่ายขึ้น โดยมีนางนลินี และนายปานปรีย์ ในการประสานงานการเจรจาระหว่างประเทศ ส่วนกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการประมง ที่ตกไป 13 ฉบับ มั่นใจว่าจะแก้ไขได้ ฝากร้อยเอกธรรมนัสดูแลรับผิดชอบ ส่วนที่ผู้ประกอบการที่มีความเป็นห่วงเรื่องค่าแรงที่ต้องทยอยปรับขึ้น ย้ำว่า การขึ้นค่าแรงเป็นนโยบายหลัก ต้องมีการระมัดระวัง แต่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นค่าแรง เพราะค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งต้องทำไปพร้อมกับการให้ความสำคัญในการเพิ่มรายได้ โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอี ต้องหารือร่วมกันหลายฝ่ายและทำทันที ส่วนจะเกิดประสิทธิผลเมื่อไหร่ อย่างไร ต้องทำงานร่วมกันกับพรรคร่วมรัฐบาล เราเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วม ต้องประสานความร่วมมือกัน นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบายสิ่งแวดล้อม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ต้องทำให้ประเทศไทย กลับไปสู่ยุครุ่งเรือง เป็น “เจ้าสมุทร” อีกครั้ง