เจออีก ร้านชาหาดใหญ่ ถูกยื่นโนติสละเมิดเครื่องหมายการค้า ปังชา เรียกค่าเสียหาย 7 แสน

วันที่ 30 ส.ค. 2566 เวลา 16:14 น.

เจออีก ร้านชาหาดใหญ่ เปิดมาเดือนกว่าถูกยื่นโนติสละเมิดเครื่องหมายการค้า ปังชา เรียกค่าเสียหาย 7 แสน จ่ายช้าปรับวันละ 1 หมื่นบาท จากกรณีร้านอาหารดัง โพสต์ข้อความแจ้งว่า แบรนด์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ชื่อเมนูดังกล่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียบร้อยแล้ว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 พร้อมเน้นย้ำสงวนสิทธิห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข รวมทั้งห้ามนำชื่อดังกล่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปใช้เป็นชื่อร้าน หรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย ต่อมาพบว่าร้านขนมหวานที่ใช้ชื่อ ปังชา ใน จ.เชียงใหม่ 2 ร้าน ถูกส่งหนังสือโนติสเกี่ยวกับการละเมิดเครื่องหมายการค้า และเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาทนั้น ล่าสุดวันนี้ (30 ส.ค.66) ร้านชาที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ก็ได้รับหนังสือโนติสเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 7 แสนบาท จากการใช้คำว่า “ปังชา” ที่ป้ายไฟของร้าน โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านชาในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา พบกับเจ้าของร้านคือ น.ส.ปัณณ์ปรุฬห์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า ร้านเพิ่งเปิดขายชาและนมสดเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา และต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 27 ส.ค. ก็ได้รับหนังสือจากทนายความอ้างว่า ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ขนมหวานเจ้าดังในกรุงเทพฯ ขอให้ยุติการกระทำอันเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า และเรียกค่าเสียหาย 7 แสนบาท ชำระภายใน 7 วัน หากล่าช้าจะปรับเงิน 1 หมื่นบาท ต่อวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับจดหมาย รวมทั้งให้แสดงความขอโทษผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ และจะเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม หากพบความเสียหายในส่วนอื่นๆ พร้อมแนบเอกสารตัวหนังสือดังกล่าว ลงวันที่ 26 ก.ค. 66 จำนวน 2 ใบ และเอกสารรูปภาพหน้าเพจ และป้ายไฟของร้านที่ติดสติ๊กเกอร์ตัวอักษรสีฟ้าคำว่า “ปังชา” ซึ่งอ้างว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้า เจ้าของร้าน บอกด้วยว่า หลังได้รับหนังสือก็ตกใจมากว่าทำผิดอะไร จึงติดต่อไปยังผู้รู้กฎหมาย รวมทั้งเจ้าของร้านขนมหวานที่เชียงใหม่ที่ปรากฏอยู่ในข่าวเพื่อหาออก ซึ่งทางร้านยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้าของร้านดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะคำว่า “ปังชา” ร้านใช้สื่อความหมายรวมถึงขนมปังและชาเอาไว้ในคำๆ เดียวเท่านั้น และแค่ติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่ป้ายไฟหน้าร้านจุดเดียว ส่วนชื่อร้านคือ “ทางช้างเผือก” ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ รวมทั้งลักษณะร้านก็คนละแนวกันด้วย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นร้านได้ลอกสติ๊กเกอร์สีฟ้าคำว่า “ปังชา” ออกจากป้ายไฟหน้าร้านแล้ว รวมทั้งในเพจของร้านที่มีแฮชแท็กคำว่า “ปังชา” ก็ลบออกแล้วเช่นกัน เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่อยากให้บริษัทใหญ่เห็นใจเจ้าของร้าน หรือผู้ประการการอื่นๆด้วย อย่าใช้ข้อกฎหมาย หรือช่องโหว่ทางกฎหมายมารังแกกัน อีกทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของร้านและผู้ประกอบร้านชาและร้านอื่นที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากล่าสุดทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่ได้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้าแต่อย่างใด