ยึดป่าสงวนแห่งชาติ ทำเลงามติดคลองน้ำไหล เลือกตัดต้นไม้ตามใจชอบ บอกที่นี่ สงบร่มเย็นดี

วันที่ 30 ส.ค. 2566 เวลา 09:41 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมด้วย และ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. สั่งการให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำ จ.เชียงใหม่-ฮอด, ลำพูน  นำโดย ร.ต.อ.จิรัฎฐวัฒน์ กิจรุ่งเรืองเดช รอง สว. กก.4 บก.ปทส. กับพวก ร่วมกับตำรวจ กก.ตชด. 33 สนธิกำลังฝ่ายปกครอง อ.ดอยสะเก็ด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรมป่าไม้ รวมทั้งหน่วยเฉพาะกิจผากองโครงการพัฒนาพื้นที่ป่าขุนแม่กวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เจ้าหน้าที่ทหาร และ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ เข้าตรวจสอบบริเวณข้างลำน้ำแม่ลายในเขตสวนป่าห้วยหลวง อยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์พืช ท้องที่บ้านโป่งกุ่ม หมู่ที่ 4 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ สืบเนื่องจากได้รับรายงานว่า มีผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และทำการตัดไม้ทำลายป่า ยึดพื้นที่เป็นของตัวเอง พบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนแม่กวงถูกบุกรุก เนื้อที่จำนวน 1 ไร่ 83 ตารางวา โดยมีการตัดไม้สักและไม้หวงห้ามแปรรูปจำนวนมาก ซึ่งสามารถจับกุม นายชาติชาติ มูลทา อายุ 50 ปี ชาว อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลาง ไม้สักท่อน จำนวน 28 ท่อน ไม้สักแปรรูป จำนวน 8 แผ่น ไม้หวงห้าม (แดง) แปรรูป จำนวน 40 แผ่น รวมทั้งอุปกรณ์ตัดและแปรรูปไม้ อาทิ เลื่อยโซ่ยนต์ 2 เครื่อง เลื่อยวงเดือน 1 เครื่อง กบไสไม้ไฟฟ้า 1 ตัว สว่านไฟฟ้า 2 ตัว และอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมาก สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพว่ากระทำการดังกล่าวจริง โดยบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำเลงาม ติดคลองน้ำไหล เลือกตัดต้นไม้ตามใจชอบ แล้วแปรรูปส่งขายให้นายทุน และยังบอกอีกว่า พื้นที่ดังกล่าวสงบร่มเย็นดี เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ ฐาน “ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้หวงห้ามชนิดอื่นแปรรูปมีปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ ฐาน “ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ฯ “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป