คนเคยรัก-จับมือตั้งรัฐบาล ปะทะเดือด เสียงท่วม ผ่านฉลุย 'เศรษฐา' นายกฯ คนที่ 30

วันที่ 23 ส.ค. 2566 เวลา 07:33 น.

สนามข่าว 7 สี - เรียกว่าเดือดทีเดียวสำหรับการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ถึงคุณเศรษฐา ทวีสิน จะผ่านฉลุย เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แต่ก็มีวิวาทะเดือดของคนเคยรัก เคยจับมือจะร่วมรัฐบาลกัน เมื่อวาน (22 ส.ค.) มีการพิจารณาลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก่อนเข้าสู่วาระก็เกิดวิวาทะเดือดกันเลย หลัง คุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ถูก สส.พรรคก้าวไกล ประท้วงหาว่าอาจารย์วันนอร์ไม่เป็นกลาง รู้เห็นเป็นใจกับเสียงข้างมาก ทำการขัดขวางการอภิปรายของคุณรังสิมันต์ โรม ที่ขอให้รัฐสภาทบทวนมติห้ามเสนอชื่อคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกลเป็นครั้งที่ 2 จนอาจารย์วันนอร์เดือดจัด จากนั้นเมื่อเข้าสู่วาระ คุณหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อคุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ไม่มีผู้เสนอชื่ออื่นเพิ่ม จึงเป็นการอภิปราย ระหว่างก็มีอภิปรายเดือดตอบโต้ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย หลังใช้เวลาอภิปรายกว่า 3 ชั่วโมง เกี่ยวกับคุณสมบัติของคุณเศรษฐา ซึ่งไม่เผ็ดร้อนเหมือนตอนที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับการเสนอชื่อ ก็มีการลงมติกันปรากฎเสียงให้ความเห็นชอบเป็นแบบม้วนเดียวจบ ตามที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้จริง ๆ และที่เกินความคาดหมายคือ มีเสียงเห็นชอบ 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 165 เสียง งดออกเสียง 81 เสียง 482 เสียงมาจาก 11 พรรคร่วมรัฐบาลที่มาอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส.พรรคเพื่อไทย ที่ไม่มาประชุม นอกจากนี้ยังมี สว.อีก 152 คน ที่เห็นชอบชื่อคุณเศรษฐา ส่วนกลุ่มไม่เห็นชอบก็เป็นกลุ่ม สส.ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านนำโดย สส.ก้าวไกล ส่วนที่งดออกเสียง 81 เสียง ส่วนใหญ่เป็นของ สว. ที่น่าสนใจคือ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีมติงดออกเสียง แต่การลงคะแนนเสียงแตกออกเป็น 3 แบบคือ งดออกเสียง 6 ไม่เห็นชอบ 2 และมีถึง 16 เสียงที่โหวตเห็นชอบ โดย 2 เสียงที่ไม่เห็นชอบ คือ 2 อดีตหัวหน้าพรรค คุณชวน หลีกภัย กับคุณบัญญัติ บรรทัดฐาน ส่วนคุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคอีกคน งดออกเสียง ขณะที่ คุณราชิต สุขพุ่ม สส.นครศรีธรรมราช แจ้งลาประชุม มีรายงานว่า สส.ประชาธิปัตย์ บางส่วนไปหารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทย แจ้งความจำนงพร้อมโหวตเติมเสียง และพร้อมเสียบเป็นอะไหล่เสริมความแข็งแกร่งให้รัฐบาลกรณีมีบางพรรคไม่พอใจการแบ่งโควตารัฐมนตรีด้วย และผลก็มี 16 สส.โหวตให้จริง ๆ เรื่องนี้ทำให้คุณชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรค ถึงกับบอกไม่น่าเชื่อ สส.ของพรรคจะโหวตเช่นนี้ ทั้งที่ต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาตลอด เพราะการโหวตไม่เห็นชอบหรืองดออกเสียงเป็นการย้ำจุดยืน ไม่ทรยศคนใต้ เมื่อคุณเศรษฐาได้รับเสียงเห็นชอบเป็นนายกฯ เขากับคุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ก็ไปที่พรรคเพื่อไทย ก็มีเสียงตะโกน นายกฯเศรษฐา ดังกระหึ่ม หลังเป็นฝ่ายค้านมายาวนานเกือบ 9 ปี จะว่าไปนี่เป็นคนที่ 5 ของพรรคแล้ว จากนายกฯคนแรก คือ คุณทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นพรรคไทยรักไทย มีนายกฯอีกสองคนในนามของพรรคพลังประชาชน คือ คุณสมัคร สุนทรเวช และคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จนถึงยุคของพรรคเพื่อไทยมีนายกฯสองคน คือ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคนล่าสุด คือ คุณเศรษฐา ทวีสิน นอกจากนี้ ยังมีข่าวโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แจ้งสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง รอสัญญาณถ่ายทอดจากสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT หลังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจ้งว่า จะมีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งคุณเศรษฐาในเวลา 20.00 น. เราจะเห็นมี สส.หลายคนแต่งชุดขาวมารอร่วมพิธีด้วย จากนั้นทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ้งผ่านกลุ่มไลน์สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลว่า เป็นการประสานเพื่อเตรียมความพร้อมเท่านั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประธานรัฐสภานำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ เมื่อทราบกำหนดการอย่างเป็นทางการ จะแจ้งให้สื่อมวลชนต่อไป  ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 ส.ค.) ก็ขานรับว่าที่นายกฯ ปิดพุ่งเกือบ 20 จุด ด้วย ดัชนี 1,545.60 จุด เพิ่มขึ้น 19.75 จุด มูลค่าซื้อขายกว่า 71,924 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อเข้าในหุ้นขนาดใหญ่ หรือ Big Cap โดยเฉพาะกลุ่ม INTUCH-GULF และ SIRI หรือ บมจ.แสนสิริ ที่ปรับตัวขึ้นก่อนปิดตลาด หลังคะแนนโหวตนายกฯ ของนายเศรษฐา เกินกว่า 374 เสียง สำหรับพรรคก้าวไกล ซึ่งตกที่นั่งฝ่ายค้าน เมื่อวานแถลงจะเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบรัฐบาลเข้มข้น สอดคล้องกับคุณพิธา ก็โพสต์ข้อความระบุ พรรคก้าวไกลมีความชัดเจน จริงใจ ตรงไปตรงมา ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง 14 ล้านเสียง มี สส.เป็นอันดับ 1 ในสภาฯ แต่ก้าวไกลไม่มีใครนอกจากประชาชน เพราะทุกองคาพยพทางการเมืองพร้อมใจปิดสวิตช์ก้าวไกล จนได้รัฐบาลผสมข้ามขั้ว จากนี้พรรคขอเป็นตัวแทนพลังใหม่ เป็นความหวังของประชาชน ตรวจสอบการทำงานของผู้มีอำนาจ และไม่ทรยศหักหลังประชาชนแน่นอน