เศรษฐา โต้ ชูวิทย์ บิดเบือนข้อมูล เตรียมฟ้องจนถึงที่สุด
วันที่ 16 ส.ค. 2566 เวลา 11:17 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - การแถลงข่าวแฉเพื่อชาติของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อาจทำให้กระทบต่อการโหวตเลือก นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ นายเศรษฐา และลูกพรรคเพื่อไทย โต้กลับ จะฟ้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะเป็นการบิดเบือนข้อมูล กรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาเปิดปฏิบัติการ "แฉเพื่อชาติ EP.2" ตั้งข้อสังเกตว่า มีนิติกรรมอำพรางของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารงานของ นายเศรษฐา ทวีสิน โดยมีการตั้งบริษัทนอมินี ที่มีกรรมการเป็นแม่บ้าน และ รปภ. ทำการซื้อที่ดินย่านทองหล่อ ด้วยการเอาเงินของผู้ถือหุ้นไปซื้อที่ดินจากบริษัทนอมินี ในราคาที่แพงเกินจริง ผ่านกระบวนการ ปั่น บวมเงิน ตัดตอน จนเกิดเงินทอนกว่า 435 ล้านบาท ก็ทำให้เส้นทางการนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา อาจสะดุด ทาง บริษัทแสนสิริ ที่ถูกพาดพิง ก็ออกแถลงการณ์ ยืนยันการซื้อที่ดินทองหล่อถูกต้อง ในราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมเทียบเคียงกับราคาตลาด และบริษัทกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำการบิดเบือนข้อมูล และทำให้ชื่อเสียงของบริษัทได้รับความเสียหาย และล่าสุด แม่บ้านสาว จังหวัดมหาสารคาม ที่ถูกล่าวถึงว่าเป็นนอมินี ออกมาเปิดใจกับทีมข่าวว่า ตกใจที่ถูกนำชื่อไปเกี่ยวข้อง โดยบอกว่า เมื่อ 3-4 วันก่อน มีใครก็ไม่รู้มาถ่ายรูปบ้าน และสอบถามข้อมูลมากมาย กระทั่งมาเห็นข้อมูลที่ นายชูวิทย์ นำออกมาแฉ บอกว่า มีเอกสารระบุว่า เธอเป็นผู้กู้ยืมเงิน บริษัทแสนสิริ ซึ่งไม่ใช่ความจริง ดังนั้นเมื่อวานนี้ จึงรีบไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.เชียงยืน เพื่อเป็นหลักฐาน เรื่องราวทั้งหมด ทำให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ไม่ขออยู่นิ่ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ (x) โต้กลับ นายชูวิทย์ และประกาศจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด โดยระบุว่า พร้อมยอมรับการตรวจสอบจากทุกฝ่าย แต่การตรวจสอบจะต้องสร้างสรรค์ และทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน หรือนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ดังนั้น เมื่อมีการบิดเบือน ไม่เป็นความจริง ก็ได้ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง และต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น ถือเป็นการปลุกปั่น ตั้งสมมติฐานขึ้นมาเอง โดยมีเป้าหมายบางประการ ด้าน สส. พรรคเพื่อไทย ต่างออกมาทวีตข้อความปกป้อง นายเศรษฐา โดยย้ำว่า ข้อกล่าวหาของ นายชูวิทย์ เป็นเรื่องที่ต้องไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งการกระทำใด ๆ ที่บิดเบือน ไม่เป็นความจริง ทางพรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด และเชื่อมั่นว่า การออกมาแฉของ นายชูวิทย์ จะไม่กระทบต่อการโหวตเลือก นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี