ปฏิบัติการนครพิงค์ ทลายบ่อนกลางเมืองเชียงใหม่ รวบนักพนัน-เจ้ามือ 104 ชีวิต ยึดของกลางเพียบ

วันที่ 9 ส.ค. 2566 เวลา 20:29 น.

ปฏิบัติการนครพิงค์ ทลายบ่อนกลางเมืองเชียงใหม่ พบเงินหมุนเวียนต่อวันกว่าล้านบาท รวบนักพนัน-เจ้ามือ 104 ชีวิต ยึดของกลางเพียบ วันนี้ (9 ส.ค.66) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง โดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 40 นาย และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ นำกำลังบุกเข้าทลายบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ มีเงินหมุนเวียนต่อวันกว่าล้านบาท โดยสามารถจับกุมนักพนันและเจ้ามือรวม 104 คน พบรถยนต์ 31 คัน และรถจักรยานยนต์จำนวนมาก โดยชุดจับกุมของฝ่ายปกครองจะประสานพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ทำการอายัดรถยนต์ต้องสงสัยที่มีเงินสดจำนวนมากพร้อมอุปกรณ์การเล่นพนัน ซึ่งฝ่ายปกครองชุดจับกุมได้ทำการยึดไว้ตรวจสอบ จากนั้นจะนำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ดำเนินคดีต่อไป นายรณรงค์ กล่าวว่า บ่อนแห่งนี้เปิดเล่นพนันใจกลางชุมชน เย้ยต่อกฎหมาย กล้าตบตาเจ้าหน้าที่ ซึ่งทุกครั้งที่มีการจับกุม เราจะเน้นยำเสมอว่าการเล่นการพนันเป็นอบายมุขที่สร้างแต่ความเดือดร้อนให้แก่ผู้เล่น ไม่มีใครรวยหรือได้ดีเพราะการพนัน และที่สำคัญเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากประชาชนมีเบาะแสบ่อนการพนันหรือแหล่งอบายมุขสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในท้องที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยังไม่มีการปฏิบัติ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้นักพนันเข้ามาเสี่ยงโชคเล่นพนัน เสือมังกร ไฮโล และบาคาร่าเป็นเวลานานแล้ว โดยเปิดเล่นทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ละวันจะมีนักพนันกว่าร้อยคนเข้าเล่น มีสถานที่ให้เล่นพนันสองแห่ง แถวสันติธรรม และ ย่านช้างเผือก เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ กรมการปกครองจึงส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพบว่า อาคารสามารถจุนักพนันได้ร่วม 300 คน มีกล้องวงจรปิด 11 ตัวสอดส่อง โดยประตูทางเข้าจะมีทางเดียว มีการ์ดตรวจตราหน้าประตูทางเข้า 2 คน คอยดูต้นทาง ตรวจตราคนเล่นหน้าใหม่ และบริเวณที่จอดรถมีการ์ดคอยสอดส่องดูแลรถเข้าออกตลอดเวลา ภายในบ่อนห้ามนักพนันไม่ให้ใช้โทรศัพท์โดยเด็ดขาด และจะยึดโทรศัพท์ของนักพนันก่อนเข้าเล่นภายในบ่อน