ประเทศมุสลิมประณามผู้ประท้วงเผาคัมภีร์ในเดนมาร์ก
วันที่ 25 ก.ค. 2566 เวลา 13:33 น.
โลกมุสลิมร่วมประณาม หลังกลุ่มต่อต้านมุสลิมเผาคัมภีร์อัลกุรอานที่เดนมาร์ก ขณะที่ทางการเดนมาร์ก เผยการกระทำนี้ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลเดนมาร์ก ผู้ประท้วงต่อต้านมุสลิมในเดนมาร์ก 2 คน ได้จุดไฟเผาคัมภีร์อัลกุรอาน หน้าสถานทูตอิรัก ประจำกรุงโคเปญเฮเกน ของเดนมาร์ก เมื่อวานนี้ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มต่อต้านมุสลิมในสวีเดน เผาคัมภีร์อัลกุรอานเพียง 1 เดือน ทำให้ล่าสุดประเทศมุสลิมต่าง ๆ ได้ออกมาร่วมประณามการกระทำดังกล่าวด้วย โดยทางการอิรัก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตเดนมาร์ก ประจำกรุงแบกเดด ได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไป 2 วันแล้ว หลังจากมีกลุ่มผู้ประท้วงราว 1,000 คน มารวมตัวหน้าสถานทูต ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิรัก ได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่จากกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) รีบพิจารณาการกระทำของผู้ประท้วงต่อต้านมุสลิมในเดนมาร์ก ที่อ้างว่าทำไปเพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ขณะที่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของแอลจีเรีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ได้เรียกตัวเอกอัคราชทูตเดนมาร์กและเอกอัคราชทูตสวีเดน ประจำแอลจีเรียเข้าพบ เพื่อประณามการกระทำที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของตุรกี ได้ประณามการเผาคัมภัร์อัลกุรอานนี้ว่าเป็น "การโจมตีที่น่ารังเกียจ" พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการเดนมาร์กรับผิดชอบ และหาทางป้องกันอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังนี้โดยเร็ว ส่วนที่กรุงซานา ของเยเมน เมื่อวานนี้ มีกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนออกมารวมตัวกัน เพื่อต่อต้านการเผาคัมภีร์อัลกุรอานในเดนมาร์ก โดยผู้ประท้วงได้ชูคัมภีร์อัลกุรอานของตนเอง และร่วมกันเปล่งเสียงประณามอย่างกึกก้อง ขณะที่พบว่า ผู้ประท้วงบางคนนำมีดสั้น ปืนพก รวมไปถึง ปืนไรเฟิลมาร่วมประท้วงด้วย สำหรับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเดนมาร์ก ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า ทางการเดนมาร์กได้ร่วมประณามกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยเขาย้ำว่าการกระทำที่น่าละลายใจเช่นนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับรัฐบาลเดนมาร์ก รวมทั้งยังเรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านมุสลิมลดระดับการชุมนุม และไม่ใช้ความรุนแรงอย่างที่เกิดขึ้นด้วย และจะไม่มีการถอนสถานทูตออกจากอิรัก