ซื้อแว่นสายตาต้องระวัง จับ 3 หนุ่มขายแว่นเถื่อนย่านสำเพ็ง
วันที่ 18 ก.ค. 2566 เวลา 16:49 น.
ซื้อแว่นสายตาต้องระวัง จับ 3 หนุ่มขายแว่นเถื่อนย่านสำเพ็ง หลัง ปชช.เจอปัญหาสายตาเพิ่ม เจ้าตัวสารภาพมีทุนจีนอยู่เบื้องหลัง สำเพ็งขายแว่นตาเถื่อน (18 ก.ค.2566) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.วิสศรุษฏ์ ไทยจันอัด สว.กก.1 บก.ปอศ. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ปอศ. เข้าตรวจค้น ร้านขายแว่นตา ย่านตลาดสำเพ็ง แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร ร่วมกันจับกุม นายป้องฯ อายุ 49 ปี, น.ส.ทติยาฯ อายุ 32 ปี และ น.ส.สายฝนฯ อายุ 34 ปี พร้อมด้วยของกลาง แว่นตาปลอมเครื่องหมายการค้า จำนวน 8,142 ชิ้น มูลค่ากว่า 5,000,000 บาท สืบเนื่องด้วยกองกำกับการ 1 บก.ปอศ. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ว่าได้ซื้อแว่นสายตามาใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วหลังจากใช้งานพบว่ามีโรคและปัญหาทางสายตาเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากแว่นสายตาไม่ได้คุณภาพ แต่ด้วยราคาถูก จึงซื้อมาใช้ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปอศ. จึงได้สืบสวนตามข้อร้องเรียนดังกล่าว ซึ่งต่อมาพบว่าแหล่งจำหน่ายแว่นสายตาที่ไม่ได้คุณภาพ ตั้งอยู่ย่านตลาดสำเพ็ง แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร ได้ลักลอบจำหน่ายโดยการปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐาน แต่จัดจำหน่ายด้วยการลดราคา เป็นเหตุให้ประชาชนหลงเชื่อ เมื่อซื้อมาใช้แล้ว พบว่าเป็นสินค้าที่ไม่ตรงตาม ที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด กระทั่ง เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปอศ. ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นสถานที่จำหน่ายแว่นสายตาย่านตลาดสำเพ็ง จนพบผู้ต้องหาจำนวน 3 คน กำลังจำหน่ายสินค้าอยู่ภายในร้านตามที่ตรวจค้น ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การว่าสินค้าทั้งหมดเป็นของคนสัญชาติจีน ซึ่งจ้างตนดูแลและจำหน่ายสินค้าให้กับประชาชนทั่วไป โดยคนสัญชาติจีน จะคอยควบคุมผ่านทางกล้องวงจรปิดและแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือ และรายได้จากการจำหน่ายแว่นสายตาทั้งหมด จะโอนไปยังคนสัญชาติจีนดังกล่าว ทั้งนี้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ได้กล่าวฝากประชาสัมพันธ์และเตือนภัยถึงประชาชน หากเลือกซื้อแว่นสายตา ควรเลือกซื้อจากผู้จัดจำหน่ายที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะมีมาตรฐานในการผลิตและมีการรับรองคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานสากล และมีผู้เชี่ยวชาญรับรอง โดยอย่าหลงเชื่อโฆษณาว่าเป็นสินค้าราคาถูกและได้มาตรฐาน และฝากถึงบุคคลที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เป็นการการะทำความผิดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พุทธศักราช 2534 ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ