แม่แจ้งความเอาผิดครู ลูกสาวนักเรียนชั้นอนุบาล 2 เขียนตัวทีไม่สวย ถูกลงโทษจับถอดกระโปรงหน้าชั้นเรียน

วันที่ 16 ก.ค. 2566 เวลา 19:55 น.

วันนี้ (16 ก.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.โดม อายุ 26 ปี พร้อมด้วย นายวุฒิ อายุ 40 ปี ชาว จ.ตรัง ได้นำ ด.ญ.กระแต (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ นักเรียนระดับชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง ใน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง เพื่อเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากที่ลูกสาวได้กลับมาบอกกับผู้ปกครองว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา คุณครูผู้หญิงชื่อย่อ บ. ซึ่งเป็นครูประจำชั้น ได้ทำโทษลูกสาว โดยการถอดกระโปรงกลางห้องเรียนต่อหน้าเพื่อนๆทั้งหญิงและชายในชั้นเรียนกว่า 28 คน โดยอ้างว่าลูกสาวเขียนอักษรภาษาอังกฤษตัว ที (T) ไม่สวย และได้นำกระโปรงมาวางตั้งไว้บนพื้นหน้าชั้นเรียน พร้อมกับให้ลูกสาวกลับไปนั่งเขียนตัวที (T)  ที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในตัวเดียว  น.ส.โดม บอกว่า เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา หลังจากลูกสาวกลับจากโรงเรียน ก็ได้มาเล่าตนฟังว่า วันนี้ถูกคุณครูถอดกระโปรงออกไปตั้งที่พื้นหน้าชั้นเรียน ตนจึงถามว่าลูกทำอะไรผิด ลูกบอกว่าเพราะหนูเขียนตัวทีไม่สวย จึงลงโทษด้วยการถอดกระโปรง ทำให้ขณะนั้นลูกร้องไห้ทั้งวัน หลังจากนั้นก็ได้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะโดยมีเพียงแค่กางเกงในเท่านั้น โดยที่ลูกพยายามใช้ผ้ากั้นเปื้อนปิด ก่อนจะเขียนตัวทีจนเสร็จ และคุณครูก็อนุญาตให้มาหยิบกระโปรงไปใส่กลับ หลังจากทราบเรื่องในวันเดียวกัน ตนก็ได้ทักไลน์ไปถามคุณครู แต่คุณครูกลับปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ และภายในห้องไม่ได้มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น แถมยังชมว่าน้องเป็นเด็กน่ารัก และปกติ ซึ่งได้รับข้อมูลมาไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ลูกเล่า น.ส.โดม บอกอีกว่า ถัดมาหลังจากนั้นในวันศุกร์ที่ 14 ก.ค. 66 ลูกได้เลิกเรียนและกลับมาบอกว่า คุณครูคนเดิมได้พูดภาษาใต้กับลูกว่า “กลับไปฟ้องแม่อีกไหม ถ้ากลับไปบอกแม่อีก ก็ไม่ต้องนอนกลางวันแล้ว” ตนจึงเกิดความไม่สบายใจ เพราะลูกร้องไห้ และพูดตลอดว่าไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว เพราะว่ากลัวคุณครู และอับอายเพื่อนๆ ตนจึงได้โทรสอบถามผู้ปกครองและเพื่อนๆของน้องคนอื่นๆที่เรียนอยู่ในห้องเดียวกัน แต่เด็กทุกคนที่สอบถามกลับเล่าตรงและเหมือนกับที่ลูกสาวมาเล่าให้ตนว่าเหตุการณ์เป็นแบบนั้นจริงๆ พร้อมทั้งบอกว่าคุณครูคนดังกล่าวชอบดูกางเกงในของเด็กในห้อง  จากนั้นถัดมาอีกวัน ตนก็ได้โทรหา ผอ.โรงเรียน เพื่อบอกเล่าในเรื่องนี้ หลังจากนั้นคุณครูคนดังกล่าวก็ได้โทรกลับมาหาตน โดยในตอนแรกก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ พยายามบอกว่าลูกตนเรียบเรียงเหตุการณ์ผิด แต่ตนก็พยายามซักถามและพยายามบอกว่าให้พูดความจริง หากบอกความจริงตนจะไม่เอาเรื่อง คุณครูจริงพูดยอมรับสารภาพว่าถอดกระโปรงจริง แต่ถอดลงมาแค่เพียงหัวเข่า และให้ยืนอยู่อย่างนั้น แต่ก็ยังเป็นการยอมรับแบบไม่บริสุทธิ์ใจ เพราะยังไม่ได้เป็นเหตุการณ์บอกเล่าที่ตรงกับที่ลูกสาวบอก ซึ่งตนจะรู้ดีว่าลูกตนจะไม่พูดโกหก ก็เลยอยากให้คุณครูออกมาพูดความจริง ว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างไร ให้ออกมาพูดกันด้วยความเป็นจริง เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ถือว่าเป็นการลงโทษที่ผิดวิธี และผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครู แต่หากจะทำโทษในลักษณะอื่นตนก็ไม่ได้ขัดอะไร  น.ส.โดม กล่าวว่า ตอนนี้ลูกรู้สึกกลัว อับอาย เพราะเป็นผู้หญิง เด็กผู้ชายคนอื่นๆเห็นหมด ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน และกลัวคุณครูคนดังกล่าวไปเลย แม้เมื่อลูกได้ยินว่าตนจะโทรหาครู ลูกก็กลัวไม่ให้ตนโทร และนำมือถือของแม่ไปซ่อน แถมมีอาการร่าเริงน้อยลง โดยวันพรุ่งนี้ (17 ก.ค. 66) ตนก็ยังคงไม่ให้ลูกไปโรงเรียน เพราะลูกยังมีอาการตกใจและกลัวอยู่ ซึ่งตนก็จะเข้าไปสอบถามและหาข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียนในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ตนก็ได้ไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว ไว้แล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 66 และอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับเลขคดีในเร็ววัน เพื่อให้เรื่องที่ร้องทุกข์เข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย และตนอยากให้ดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด และให้คุณครูออกมาชี้แจงรับผิดและพูดความจริงในสิ่งที่ทำลงไป ขณะเดียวกันอยากจะฝากไปถึงโรงเรียนให้ดำเนินการสอบสวนทางวินัยและจรรยาบรรณวิชาชีพของครูรายดังกล่าวด้วย  อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้โทรไปสอบถามกับทาง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ระบุว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว และได้สืบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว แต่คงไม่เป็นเช่นนั้น และได้สอบถามพูดคุณกับคุณครูรายดังกล่าวแล้ว โดยคุณครูยืนยันว่าไม่ได้ทำพฤติกรรมเช่นนั้น และในวันพรุ่งนี้ผู้ปกครองได้นัดตนเพื่อพูดคุยกันพร้อมกับคุณครูรายดังกล่าวอีกด้วย