ตำรวจทางหลวง รวบชาย 43 ปี คาถนน ขับรถป้ายแดงปลอม

วันที่ 5 ก.ค. 2566 เวลา 15:36 น.

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุม นายสุรชัยฯ อายุ 43 ปี ในความผิดฐาน  “ใช้เอกสารราชการปลอมและใช้รถที่ยังไม่ได้จดทะเบียน” พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง สีดำ 2. ป้ายทะเบียนปลอม (ป้ายแดง) จำนวน 2 แผ่น 3. สมุดคู่มือประจำรถใช้กับเครื่องหมายพิเศษปลอม จำนวน 1 เล่ม สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ออกตรวจในเขตพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 35 (พระราม2) ต่อมาเวลาประมาณ 19.13 น. ระหว่างกิโลเมตรที่ 32 ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร สมุทรสาครได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง สีดำ (ป้ายแดง) มีนายสุรชัยฯเป็นผู้ขับขี่ (ทราบภายหลัง) จึงได้เรียกให้หยุดและขออนุญาตตรวจสอบเอกสารคู่มือประจำรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงแสดงเอกสารคู่มือประจำรถได้และไม่แสดงแผ่นป้ายเสียภาษีประจำปี จึงได้เชิญตัวผู้ขับขี่พร้อมรถยนต์คันดังกล่าวมาที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงมหาชัยเพื่อตรวจสอบรายละเอียด จากการสอบถามแจ้งว่ารถคันดังกล่าวเป็นของน้องชาย ได้ซื้อรถคันดังกล่าวมาจากตัวแทนจำหน่ายเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนแล้ว ตรวจสอบเลขไมล์พบว่าใช้รถมาแล้ว 16,609 กม. และป้ายทะเบียน ไม่มีลายน้ำเครื่องหมายราชการกรมการขนส่งทางบก และไม่มีเลข 10 หลัก เชื่อได้ว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม และจากการตรวจสอบหมายเลขตัวถังผ่านระบบสารสนเทศสถานีตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (CRIMES) พบว่า รถยนต์คันดังกล่าวยังไม่ได้จดทะเบียนกับกรมชนส่งทางบก จึงได้แจ้งข้อหาก่อน พร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบ และทำการบันทึกจับกุมและดำเนินการส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ผู้ที่ใช้ปลอมป้ายทะเบียนปลอม สามารถได้รับโทษทางอาญา “มาตรา 264 ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน” ผู้ที่ใช้ป้ายทะเบียนปลอม สามารถได้รับโทษทางอาญา “มาตรา 268 ผู้ใดใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิดตามมาตรา 264 มาตรา 265 มาตรา 266 หรือมาตรา 2678 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆ” กล่าวคือจะได้รับโทษเท่ากับผู้ที่ปลอมเอกสารนั้นขึ้นมา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ