ทอ.แจง ยันไม่ได้ลงโทษพลทหารจนตาบอด
วันที่ 5 ก.ค. 2566 เวลา 06:35 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีทหารเกณฑ์คนหนึ่งออกมาร้องเรียนว่า ถูกครูฝึกลงโทษได้รับความกระทบกระเทือนจนถึงขั้นตาบอดนั้น ล่าสุดทางกองทัพอากาศ ออกหนังสือชี้แจงยืนยันว่า ไม่ได้มีการลงโทษพลทหารถึงขั้นตาบอด แต่เจ้าตัวมีปัญหาสายตามาก่อนแล้ว ขณะที่ผู้เสียหายยืนยันว่าถูกลงโทษหนักจริง และอยากได้รับความเป็นธรรม พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงกรณีที่พลทหารสังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่าถูกทำโทษจนทำให้ตาบอด ขณะนี้ พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน หากผลการสอบสวนพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะมีการลงโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง พบข้อเท็จจริงว่า วันที่ 15 พฤษภาคม พลทหารคนดังกล่าวรายงานตัวเข้ารับการฝึก ณ หน่วยฝึกทหารกองประจำการใหม่ ศูนย์การทหารอากาศโยธิน และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นโรคตาขี้เกียจ วันที่ 16-17 พฤษภาคม มีการฝึกเบื้องต้น อาทิ ท่าตรง ท่าตามระเบียบพัก ท่าทำความเคารพ และการดำเนินการด้านธุรการต่าง ๆ แต่พลทหารรายนี้ไม่ได้เข้ารับการฝึก เนื่องจากแจ้งว่าปวดตา จึงได้รับอนุญาตให้พัก โดยนอนที่เตียงสนามในเต็นท์ของหน่วยฝึกฯ วันที่ 18 พฤษภาคม ได้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทหารอากาศ โดยมีอาการปวดกระบอกตามากทั้งสองข้าง แสบตา น้ำตาไหล ลืมตาไม่ค่อยขึ้น ซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่าเป็นมาตั้งแต่เด็ก แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคตาขี้เกียจ นอกจากนี้ยังตรวจพบเนื้องอกขนาดเล็กในสมอง ได้แจ้งรายละเอียดกับผู้ปกครอง และตกลงให้ทางหน่วยฝึกฯ เป็นผู้ดูแล ส่วนเรื่องการทำร้ายร่างกายนั้น จากการตรวจสอบทั้งจากครูฝึก และทหารกองประจำการในผลัดเดียวกัน ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือการทำโทษพลทหารที่เกินกว่าเหตุแต่อย่างใด สอดคล้องกับโพสต์นี้ของคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนทหารเกณฑ์ ผลัดเดียวกันกับพลทหารที่ร้องเรียน ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีการลงโทษ หรือฝึกหนักจนทำให้ถึงขั้นตาบอดแต่อย่างใด ตรงกันข้ามคือเจ้าหน้าที่ให้การดูแลอย่างดี และพลทหารที่ออกมาร้องเรียนนั้น ก็ไม่ได้ฝึกหนักเหมือนคนอื่น ๆ เพราะสภาพร่างกายไม่พร้อม อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ได้พูดคุยกับ พลทหารณฐพล ซึ่งเดินทางมาออกรายการถกไม่เถียง พร้อมกับมารดา โดยยอมรับว่าตนเองมีปัญหาทางสายตาจริง โดยมีลักษณะตาเข แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการดำเนินชีวิต ตอนสมัครเข้ามาเป็นทหาร มีการตรวจวัดสายตา ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ไม่มีใครทักท้วงอะไร ยืนยันว่าสาเหตุที่ทำให้ดวงตาได้รับความกระทบกระเทือน เกิดจากการที่ถูกครูฝึกทำโทษตั้งแต่ 19.00-04.00 น.ของอีกวัน และจากนั้นยังให้ไปฝึกต่อ ตอนนี้อยากให้ครูฝึกที่สั่งลงโทษตนเอง ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยสภาพของพลทหารณฐพล พบว่าร่างกายยังอ่อนแรง ไม่สามารถเดินด้วยตนเองได้ ต้องมีคนคอยพยุงอยู่ตลอด ในขณะที่ดวงตาด้านขวา เริ่มมองเห็นได้แล้ว ส่วนตาซ้ายยังเลือนราง มองเห็นยังไม่ชัด โดยแม่ของผู้เสียหายยืนยันว่า จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกจนถึงที่สุด