ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่น กกต. สอบ เรืองไกร ร้องเท็จหรือไม่
วันที่ 13 มิ.ย. 2566 เวลา 06:22 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - ถือเป็นคนแรกที่ออกมาเล่นงานกลับ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรณีหุ้นสื่อพิธากับทาง กกต. คือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เมื่อวานนี้มีการยื่นให้ กกต. ตรวจสอบว่าการกระทำของนายเรืองไกรเข้าข่ายกระทำการเป็นเท็จ ผิด พ.ร.ป.เลือกตั้งมาตรา 143 ช่วงบ่ายวานนี้ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้สอบข้อเท็จจริงกรณีคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยื่นร้องเรียนหุ้นสื่อไอทีวีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยเห็นว่า นายเรืองไกร ได้เสนอหลักฐานซึ่งอ้างว่า นายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นสื่อไอทีวีเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ถือในฐานะผู้จัดการมรดก ขณะที่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ระบุชัดเจนว่า อำนาจของผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ระบุหนี้สิน และทรัพย์สิน และแจกจ่ายให้กับทายาทตามกฎหมาย จะเห็นได้ว่าบทบาทหน้าที่ และความหมายของการถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดกจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ตนพบข้อมูลว่า นายพิธา ถือหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดกเท่านั้น ไม่ได้ถือในนามส่วนตัว การกระทำของ นายเรืองไกร จึงอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. มาตรา 143 ที่ระบุว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จ ให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย บุคคลดังกล่าวอาจมีความผิด ต้องโทษจำคุกในที่สุด จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบคำร้องของ นายเรืองไกร ว่าเข้าข่ายกระทำการผิดกฎหมายหรือไม่ ทนายอั๋น บอกอีกว่า คลิปวิดีโอการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่ระบุชัดเจนว่า "บริษัทไอทีวีไม่ได้ดำเนินกิจการสื่อมวลชน" ยิ่งขัดต่อเอกสารที่ นายเรืองไกร นำมาร้องต่อ กกต. ด้วย ตนจึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงนี้อย่างเท่าเทียมด้วย