พลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย 2 ก.ค.นี้ ใช้งบกลาง 19 ล้านบาท
วันที่ 9 มิ.ย. 2566 เวลา 15:58 น.
พลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย 2 ก.ค.นี้ ใช้งบกลาง 19 ล้านบาท สร้างกรงขึ้นเครื่องคืบหน้า 90% พลายศักดิ์สุรินทร์ เตรียมกลับไทยต้นเดือนหน้า วันนี้(9 มิถุนายน 2566) เมื่อเวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานแถลงข่าว "การนำพลายศักดิ์สุรินทร์ (Muthu Raja) กลับประเทศไทย" โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมายังประเทศไทย นายวราวุธ กล่าวว่า การหารือร่วมกันกับรัฐบาลศรีลังกา เห็นพ้องว่าต้องนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมาซึ่งการประสานกับศรีลังกา ผ่านไปได้โดยไม่ขัดข้อง ปัจจุบันย้ายช้างจากวัดมาที่สวนสัตว์แล้วเพื่อรักษาและกักกันโรคเบื้องต้น และส่งควาญช้างเข้าไปฝึกการใช้ภาษาไทย เพราะช้างไปอยู่ที่ศรีลังกาเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2544 ตั้งแต่ยังไม่ถึง 10 ขวบ ต้องไปสอนการสื่อสารภาษาไทย ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งพลายศักดิ์สุรินทร์ ปัจจุบันมีอายุประมาณ 30 ปี เป็นหนึ่งในช้าง 2 เชือก ที่รัฐบาลไทยมอบให้รัฐบาลศรีลังกาตั้งแต่ปี 2544 เพื่อนำไปฝึกสำหรับอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในงานแห่พระธาตุประจำปีของประเทศศรีลังกา จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2565 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มีหนังสือสอบถามมายังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้พิจารณาติดตามข้อมูลสุขภาพของช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ และปลายปี 2565 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคล้มโบ ตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ เดินทางไปตรวจสุขภาพ พบว่าช้างมีอาการป่วยจากฝีขนาดใหญ่ และมีการบาดเจ็บที่ขาและเท้า จึงขอให้ย้ายช้างไปรักษาอาการป่วยที่สวนสัตว์แห่งชาติ Dehiwala ในเดือนพฤศจิกายน 2565 จากนั้นจึงประชุมหารือกับรัฐบาลศรีลังกาเห็นชอบให้นำกลับมารักษาที่ประเทศไทย ซึ่งมีความพร้อมในด้านการสัตวแพทย์และเชี่ยวชาญการดูแลช้าง พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณในความช่วยเหลือครั้งนี้ นายวราวุธ กล่าวอีกว่า เมื่อรัฐบาลไทยได้อนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินการนำช้างกลับมารักษา กรมอุทยานแห่งชาติฯ องค์การสวนสัตว์ฯ และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโคล้มโบ ร่วมเตรียมการขนย้ายช้างและการดูแลรักษาภายหลังที่เดินทางกลับมาประเทศไทย โดยองค์การสวนสัตว์ฯ จะเป็นหน่วยงานยื่นขอนำเข้า และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จะดำเนินการขนย้ายและดูแลรักษาพลายศักดิ์สุรินทร์ พร้อมกับย้ำว่าตอนนี้ ไทยไม่มีนโยบายส่งออกช้างไทยออกนอกประเทศอีก ส่วนการเดินทางกลับมายังประเทศไทยของพลายศักดิ์สุรินทร์นั้น คาดว่าจะสามารถเดินทางในวันที่ 2 ก.ค.2566 โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำขนาดใหญ่ จากสนามบินนานาชาติโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา มายังประเทศไทย ณ สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ โดยมีสัตวแพทย์และควาญช้าง จำนวน 4 คน เดินทางมาพร้อมกันด้วย ก่อนจะกักโรค 14 วัน ประเมินสุขภาพของช้าง แล้วจะขนย้ายต่อไปด้วยรถบรรทุกไปยังสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ จังหวัดลำปาง ในขณะขนย้ายจะมีสัตวแพทย์และควาญช้างดูแลตลอดเวลา แตกหากช้างยังไม่พร้อมหรือเกิดปัญหาขึ้น กำหนดการก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน ด้านนางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า การเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์จะใช้กรงพิเศษที่สั่งทำขึ้นมา เพราะงาของพลายศักดิ์สุรินทร์ค่อนข้างยาว ปัจจุบันคืบหน้าแล้ว 90% คาดว่าจะแล้วเสร็จวันที่ 10 มิ.ย.นี้ จากนั้นควาญช้างจะฝึกพาหัดเดินเข้ากรง โดยงบประมาณทั้งหมดที่ใช้ขณะนี้เป็นเงินจำนวน 19 ล้านบาท เมื่อถามว่าในอนาคตจะให้พลายศักดิ์สุรินทร์อยู่ในไทยตลอดไปหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตอนนี้คณะทำงานให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพของพลายศักดิ์สุรินทร์เป็นหลัก จากนั้นจึงจะหารือกันต่อไปว่าจะดำเนินการกับพลายศักดิ์สุรินทร์อย่างไร แต่เชื่อว่าการรักษาคงไม่ใช่แค่หลักวัน สัปดาห์ หรือเพียงไม่กี่เดือน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวอีกว่า การดำเนินการนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาที่ไทยนั้น เป็นการส่งทีมจากไทยไป รวมถึงอุปกรณ์จากไทยเช่นเดียวกันที่นำไปยังศรีลังกา เช่นเดียวกันกับงบในการนำช้างกลับมารักษาก็เป็นงบของประเทศไทย ส่วนในอนาคตหากช้างไทยกว่า 10 ตัวที่อยู่ในต่างประเทศ เกิดอาการป่วยจนปลายทางรักษาไม่ได้แล้วจะต้องเบิกงบกลับมาหรือไม่นั้น คงต้องตรวจสอบเป็นกรณีแตกต่างกันออกไป