รังสิมันต์ โรม ชี้ ร.ต.อ.หญิง ยิ่งกว่าตั๋วช้าง
วันที่ 9 มิ.ย. 2566 เวลา 06:23 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - คราวนี้มาดูปฏิกริยาทาง คุณรังสิมันต์ โรม บ้าง เมื่อถูกเมนชั่นให้เข้าไปจัดการหลักสูตร กอส. คุณรังสิมันต์ จะว่าอย่างไร เฟซบุ๊ก คุณโรม ขยับทันที ระบุ "ตอนนี้ผมทราบปัญหาเรื่องการใช้เส้นสายผ่านหลักสูตร กอส. ของ ตร. แล้วครับ กำลังตรวจสอบและจะตรวจสอบย้อนหลังหลายๆ ปี ด้วยครับ" จากนั้นไม่นานก็โพสต์อีกรอบ ระบุ "ทราบว่าหลักสูตร กอส. ที่ให้บุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ จะมีที่มา คือ 1.เป็นทายาทของตำรวจที่เสียชีวิตในหน้าที่ 2.มีคุณวุฒิที่ขาดแคลน 3.เป็นนามสกุลดังที่ขาดแคลน ต่อมา คุณโรม ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เป็นหลักสูตรที่เข้าใจว่าเดิมทีวางไว้สำหรับการเปิดรับคนที่มีวุฒิการศึกษาบางอย่างที่ทางตำรวจอาจจะเล็งเห็นว่าจะช่วยให้องค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ไป ๆ มา ๆ อาจจะไม่เป็นแบบนั้น เมื่อไปดูแล้วก็เห็นด้วยว่า คนที่ผ่านหลักสูตรนี้หลายคนมีนามสกุลดัง เบื้องต้นได้รายชื่อของปี 2566 มาแล้ว คงต้องไปดูของปีอื่น ๆ ก่อนหน้าด้วย ซึ่งนอกจากเรื่องของระบบเส้นสายแล้ว ส่วนตัวมีข้อสงสัยว่า หลักสูตรนี้อาจเป็นตั๋วประเภทหนึ่งด้วยหรือไม่ คืออาจมีการจ่ายเงิน ขณะนี้กำลังตรวจสอบ เรื่องการจัดการกับทุจริตคอร์รัปชัน เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกล ยืนยันว่าให้ความสำคัญ เรื่องของตั๋ว เรื่องของส่วยก็เป็นหนึ่งในปัญหา โดยเมื่อวานนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คณะทำงานต่อต้านคอร์รัปชันของพรรค เดินทางเข้าหารือแลกเปลี่ยนนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน หรือ ACT นายพิธา เริ่มต้นด้วยการพูดคุยหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเองว่า "ไม่ต้องเรียกท่าน ไม่เรียกไอ้ก็พอ" จากนั้นจึงกล่าวว่า เรื่องที่นำมาเสนอเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการภายใน 100 วัน โดยเฉพาะการบริหารงานในภาครัฐที่จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือ AI เข้ามาช่วย รวมทั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่จะอยู่ในระบบทำให้ตรวจสอบได้ หากมีเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้การทำงานในเชิงรุกมากขึ้น ส่วนที่ทำได้เลยอาจเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ต้องใช้งบประมาณอะไรก็คือ การถ่ายทอดสดการประชุมสำคัญ เช่น การพิจารณางบประมาณ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการตรวจสอบและสร้างความโปร่งใสได้ นอกจากนี้ พิธา ยังกล่าวถึงเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับหลักสูตรของตำรวจและส่วยทางหลวงที่ต้องมีการหาข้อเท็จจริงกันต่อไป สำหรับหลักสูตร กอส. หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า นายร้อยอบรม ตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างต่อเนื่องว่า "ควรจะมีต่อไปหรือไม่" เพราะดูเหมือนว่าหลักสูตรนี้จะเป็นที่หมายตาของเหล่าลูกหลานไฮโซ หรือนามสกุลดัง บ้างก็เคยตกเป็นที่วิจารณ์ เช่น สงกรานต์ เตชะณรงค์ ทายาทโบนันซ่า หรือ เตชธร จามิกรณ์ น้องชายคุณแพนเค้ก หรือที่จบมาแล้ว กลับไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาก็มี เช่น ร.ต.อ.คุณากร ขจรบุญถาวร หรือสารวัตรไบรท์ แห่งตระกูล บ. ในคดีเว็บพนันมาเก๊า 888 รวมถึงรุ่นน้อง รูบี้ ที่ว่ากันว่าเป็นคนสนิทของสารวัตรซัว นอกจากนี้ ยังมีนามสกุลดังอีกหลายสกุล เช่น เตชะอุบล, แสงสิงแก้ว, ธารีฉัตร, เปลี่ยนสี, กุลดิลก, ลิ้มสังกาศ, เหรียญราชา, ทรวดทรง, เมฆหมอก, สุขวิมล, วรรณภักตร์, ชิงดวง, ขลิบเงิน, วัฒนะ, ภุมมา, ธาตุศาสตร์, เมธาวัธน์, โกมลวรรธนะ, วงษ์ปิ่น, สายันประเสริฐ, สุวรรณจรัส ฯลฯ