คืบหน้าเขื่อนพังเสียหายในยูเครน อพยพประชาชนหลายหมื่นคน
วันที่ 7 มิ.ย. 2566 เวลา 13:02 น.
ประชาชนกว่า 40,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน หลังเขื่อนหลักในยูเครนเสียหายจากแรงระเบิด ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลัก เข้าท่วมหลายพื้นที่ ขณะที่ สหประชาชาติเตรียมเปิดการประชุมฉุกเฉิน เพื่อหารือถึงภัยพิบัติครั้งนี้แล้ว หลังเกิดเหตุเขื่อนหลักที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต ที่เมืองโนวาคาเคฟกา (Nova Kakhovka) ในภูมิภาคเคียร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งเป็นเขตที่รัสเซียเข้าควบคุมอยู่ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแรงระเบิด ส่งผลให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักออกจากรอยแตกของเขื่อน ทำให้มีน้ำท่วมสูงทั้งในเขตที่มีการสู้รบ และตามหมู่บ้านโดยรอบ ขณะที่ ประชาชนราว 42,000 คน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวแม่น้ำนีเปอร์ หรือ ดนีโปร ทั้งในเขตควบคุมของยูเครนและรัสเซีย ต้องเร่งอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง โดยเขื่อนดังกล่าวมีความสูง 30 เมตร ยาว 3.2 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อกั้นแม่น้ำนีเปอร์ และเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าพลังน้ำคาเคฟกา รวมทั้งยังเป็นแหล่งส่งน้ำ เพื่อใช้ในกระบวนการหล่อเย็นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริซเซีย ของยูเครน และเป็นแหล่งน้ำสำคัญของภูมิภาคไครเมียของรัสเซีย ด้วย ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เปิดเผยว่า อาจมีเมืองและหมู่บ้านราว 80 แห่ง ที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และกล่าวหารัสเซียว่า รัสเซียก่อเหตุอาชญากรรมสงครามด้วยการระเบิดเขื่อน ขณะที่ ฝ่ายรัสเซียโต้ว่าเป็นความผิดของยูเครน โดยอ้างว่ายูเครนกำลังพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ จากแผนการตอบโต้กลับครั้งใหญ่ของยูเครน ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุเขื่อนเสียหายครั้งนี้ แต่เบื้องต้นมีรายงานสัตว์ต่างๆ ในสวนสัตว์ราว 300 ตัว ถูกน้ำท่วมตาย คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้เรียกประชุมฉุกเฉิน พร้อมเตือนถึงผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อประชาชนในพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งประชาชนที่อยู่ในแนวหน้าสงคราม ที่ต้องสูญเสียบ้านเรือน, อาหาร, แหล่งน้ำที่ปลอดภัย และความเป็นอยู่ด้วย