ตำรวจดอนเมืองรวบหนุ่มศรีสะเกษขโมยสายเคเบิลพื้นที่กองทัพอากาศ
วันที่ 31 พ.ค. 2566 เวลา 19:02 น.
ตำรวจดอนเมืองรวบหนุ่มศรีสะเกษขโมยสายเคเบิลพื้นที่กองทัพอากาศ ขุดประวัติเจอคดียาเสพติด-ลักทรัพย์เพียบ ดอนเมืองเจอคนลักสายเคเบิล วันนี้(31 พ.ค.2566) พ.ต.อ.อดิเรก ทองแกมแก้ว ผกก.สน.ดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมตัว นายวรวุฒิ หรือแอ็ด อายุ 28 ปี อายุ ๒๘ ปี ชาวบ้านหมู่ 10 ตำบลกฤษณา อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน 1ฒช --85 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน, สายเคเบิลสื่อสาร จำนวน 4 ท่อน ยาว 3-18 เมตร, กรรไกรตัดท่อ สีแดง และ คีมล็อกปากเป็ด จำนวน 1 ตัว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2566 เวลาประมาณ 05.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปราบปราม สน.ดอนเมือง ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจาก กรมทหารสารวัตรทหารอากาศ ร้อย สวส.พัน สห.ทอ. แจ้งมายังศูนย์วิทยุของ สน.ดอนเมือง ว่าพบรถยนต์กระบะจอดอยู่ที่ ถนนพหลโยธิน แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พบคนร้ายภายในบริเวณช่องทางเดินรถ ประตู ทอ.3 มีพฤติการณ์น่าสงสัย กำลังขนสายเคเบิลสื่อสารขึ้นรถยนต์กระบะคันดังกล่าวอยู่ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง ทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน พร้อมทั้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าไปตรวจสอบตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้พบกับ พบนายวราวุฒิ หรือแอ็ด (ทราบชื่อภายหลัง) กำลังขนสายเคเบิลสื่อสารที่ตัดแล้ว ขึ้นไปยังหลังรถยนต์กระบะ ตำรวจจึงได้แสดงตัวแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบ นายวรวุฒิฯ ผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ได้ขับรถยนต์ มาจากดินแดงและได้มาจอดบริเวณริมถนนพหลโยธิน หน้าช่องทางเดิน ประตู 3 ทอ. แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร จากนั้นได้เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดสายเคเบิลสื่อสาร ก่อนจะปีนกำแพงข้ามไปภายในบริเวณพื้นที่ของ ทอ. และตรงไปยังจุดที่สายเคเบิลสื่อสาร ที่ติดตั้งอยู่บริเวณช่องทาง ทอ.3 และลงมือตัดท่อตัดสายเคเบิลสื่อสารรวมยาวประมาณ 55 เมตร แล้วตัดออกเป็น 4 ท่อน เพื่อสะดวกแก่การขนย้าย เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางรายการตามบัญชีของกลางที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ฯได้บันทึกภาพไว้โดยตลอด และได้แจ้งต่อนายวราวุฒิ หรือแอ็ด ว่าจะต้องถูกจับ แต่เนื่องด้วยเหตุการจับเป็นเหตุซึ่งหน้า เป็นเหตุที่การกระทำของผู้ต้องหาดังกล่าวมีเหตุที่จะออกหมายจับบุคคลนั้นตามมาตรา 78(2)(3) ประกอบมาตรา 66(2) ตาม ป.วิ อาญา แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับบุคคลนั้นได้ ซึ่งเป็นกรณีผู้ถูกจับไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และจะหลบหนี จึงทำการจับกุมตัวและแจ้งให้นายวราวุฒิหรือแอ็ดฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับ และต้องถูกนำตัวไปยังที่ สน.ดอนเมือง เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร" พร้อมแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้นให้นายวราวุฒิ หรือแอ็ด ทราบ จึงควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลางมาที่ สน.ดอนเมือง เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และให้การเพิ่มเติมว่าเคยก่อเหตุลักสายเคเบิลสื่อสารในลักษณะนี้มาแล้วประมาณ 4-5 ครั้ง ในหลายพื้นที่ แต่ยังไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ เมื่อตรวจสอบประวัติข้อมูลคดีอาญา ของนายวราวุฒิ หรือแอ็ด ผู้ต้องหา ปรากฏรายละเอียดดังนี้ -เมื่อปี 2556 ถูกจับข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1" พื้นที่ สน.สายไหม กรุงเทพมหานคร -เมื่อปี 2559 ถูกจับข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1" พื้นที่ สน.สายไหม กรุงเทพมหานคร -เมื่อปี 2560 ถูกจับข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1" พื้นที่ สน.สายไหม กรุงเทพมหานคร -เมื่อปี 2561 ถูกจับข้อหา "เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1" พื้นที่ สน.สายไหม กรุงเทพมหานคร -เมื่อปี 2562 ถูกจับข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” พื้นที่ สน.คันนายาว กรุงเทพมหานคร -เมื่อปี 2566 เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2566 ถูกจับข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พื้นที่ สน.ดินแดง กรุงเทพมหานคร -เมื่อปี 2566 วันที่ 31 พ.ค.2566 ถูกจับข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร” พื้นที่ สน.ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร