นักวิชาการเห็นพ้อง ท่าที เพื่อไทย ล่มหัวจมท้าย ก้าวไกล ตั้งรัฐบาล
วันที่ 31 พ.ค. 2566 เวลา 06:21 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากการแถลงของ 8 พรรคร่วม ที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปจากสัปดาห์ก่อน โดยเฉพาะท่าทีของ พรรคเพื่อไทย ซึ่งนักวิชาการมองว่า นี่เป็นสัญญาณที่พรรคเพื่อไทยพร้อมล่มหัวจมท้ายกับพรรคก้าวไกลในการตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ รองศาสตราจารย์ พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า กล่าวถึงสัญญาณและท่าที 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล หลังการประชุมและแถลงร่วมกันเมื่อวานนี้ว่า เห็นความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล มีความเป็นไปได้มากขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยแถลงให้ความมั่นใจในการร่วมกับพรรคก้าวไกลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เป็นการตอกย้ำถึงความแน่นแฟ้น หลังมีข่าวระหองระแหงกันช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดช่วงหนึ่งว่า จะพยายามทำให้รัฐบาลก้าวไกลเกิดขึ้นให้ได้ และพยายามทำให้รัฐบาลประชาชนที่มี 25 ล้านเสียง เกิดขึ้นให้ได้ จึงคาดว่าน่าจะมีการคุยกันภายในกันเรียบร้อย แล้วส่งผ่านการแถลงของ นายแพทย์ชลน่าน รองศาสตราจารย์ พิชาย บอกด้วยว่า จุดที่ทำให้เมื่อวานนี้ต่างจากสัปดาห์ที่แล้ว เพราะกลุ่มแกนนำเพื่อไทยคงไปคุยกัน หาทางออกที่ดีที่สุด ผลสรุปควรยึดชัยชนะทางการเมืองระยะยาว มากกว่าชัยชนะการจัดตั้งรัฐบาลระยะสั้น เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยแย่งชิงการจัดตั้งรัฐบาลจากก้าวไกล ไปร่วมกับพรรคขั้วตรงข้าม เช่น พลังประชารัฐ หรือ ภูมิใจไทย จะเกิดผลกระทบต่อเพื่อไทยอย่างมหาศาลในการเลือกตั้งครั้งต่อไป และจะกระทบกับ คุณแพทองธาร ชินวัตร ด้วย ทำให้อนาคตทางการเมืองมีมลทิน เพราะ คุณแพทองธาร ยืนยันหลายครั้ง ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ ถ้ากลับคำจะทำให้เกิดผลเสียทางการเมืองที่ยังต้องอยู่อีกยาวไกล ข้อสรุปจึงต้องสนับสนุนก้าวไกล และตั้งรัฐบาลจากฝ่ายที่เรียกว่าเสรีประชาธิปไตยให้ได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทยเอง คุณแพทองธาร คงจะไปกล่อมผู้เป็นพ่อ ทำให้ นายทักษิณ ชินวัตร ยุติการคุยในกลุ่มแคร์ และปฏิเสธดีลลับต่าง ๆ รวมทั้งภาพเมื่อวานซืนที่ คุณแพทองธาร ทวิตในทวิตเตอร์เป็นภาพนั่งประชุมกับแกนนำพรรค พร้อมข้อความ "ไม่มีดีลลับ มีแต่ดีลรัก" ถือเป็นสัญญาณที่จะร่วมมือกับก้าวไกลอย่างมั่นคง ขณะที่ ศาสตราจารย์ สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า ที่เห็นจากการแถลงเมื่อวานนี้ คือความพยายามประนีประนอม รอมชอมกันมากขึ้น ระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ดังนั้นถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง คือ กรณี นายพิธา ถูกตัดสิทธิขาดคุณสมบัติปมถือหุ้นไอทีวี คิดว่าเพื่อไทยและก้าวไกลจะจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์ได้เร็จ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง และได้เสียงสนับสนุนโหวตให้ นายพิธา ไม่มากพอ เชื่อว่าเพื่อไทยจะรับไม้ต่อจากก้าวไกล นั่นต้องเป็นพรรคก้าวไกลที่บอกเองว่าจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้แล้ว ขอส่งไม้ต่อให้ ซึ่งก้าวไกลก็จะยังคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ การที่พรรคเพื่อไทยมีท่าทีเช่นนี้ เพราะมีแรงกดดันจากกระแสสังคมเรียกร้องให้เคารพเจตนารมณ์ของประชาชน และความคาดหวังของคนเลือกเพื่อไทยและก้าวไกล ถ้าเพื่อไทยไม่จับมือก้าวไกล จะมีต้นทุนที่สูง ยกเว้นว่า พรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เอง ศาสตราจารย์ สิริพรรณ บอกด้วยว่า เมื่อ 2-3 วันก่อน พรรคเพื่อไทยเรียกร้องตำแหน่งประธานสภาฯ แต่ท่าทีที่เปลี่ยนไป และการที่ นายทักษิณ บอกว่าไม่เล่นโซเชียลมีเดีย จริง ๆ น่าจะมีความชัดเจนนี้ตั้งแต่แรก ทำตัวนิ่ง ๆ เป็นผู้ใหญ่ที่คอยประคับประคองการตั้งรัฐบาลก้าวไกล จะทำให้คะแนนเสียงของเพื่อไทยไม่เสีย ศาสตราจารย์ สิริพรรณ สรุปทิ้งท้ายว่า ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยตอนนี้ ดูเหมือนอยู่นิ่ง ๆ ก็พอ ถ้าสถานการณ์จะพลิกก็เป็นเพราะพลิกเอง เมื่อถึงทางตันทางการเมือง จึงจะเป็นจังหวะของเพื่อไทย ในขณะที่บทสรุปของรองศาสตราจารย์พิชาย บอกว่า โอกาสมีน้อยที่จะพลิก กรณีเดียวที่จะเกิดขึ้น คือ ปมนายพิธาถือหุ้นสื่อ แต่ถ้าออกแบบนั้น ก็ยังเป็นก้าวไกลร่วมมือกับเพื่อไทยอยู่ดี