ประเสริฐ เสียงแข็ง เพื่อไทย ต้องได้เก้าอี้ประธานสภาฯ
วันที่ 26 พ.ค. 2566 เวลา 06:32 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - หลังการแถลงของ คุณศิริกัญญา ทางฝั่งพรรคเพื่อไทยก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นว่า เก้าอี้ประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งสำคัญ จึงต้องดูความเหมาะสมด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใน MOU และที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย ถอยมาพอสมควรแล้ว นายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของเราเรื่องโผคณะรัฐมนตรี ว่าโผที่ออกมา 2-3 โพล เป็นการคาดเดา หรือโยนหินถามทาง เพื่อวัดกระแสสังคมให้เกิดแรงกระเพื่อมเท่านั้น ยังไม่มีการพูดคุยกันในพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล บางรายชื่อที่ปรากฏออกมา ก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะขาดคุณสมบัติ การจัดสรรโควตารัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยนั้น จะมีคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา ต่อมา นายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเพิ่มเติมภายหลังการแถลงข่าวของ คุณศิริกัญญา ที่ออกมาย้ำว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล นายประเสริฐ บอกว่า ทั้ง 2 ฝั่งต่างออกมาพูดว่าตำแหน่งต้องเป็นของฝั่งไหน ซึ่งตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งสำคัญ จึงอยากให้คำนึงถึงความเหมาะสมด้วย แต่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอม พรรคเพื่อไทยคงต้องกลับมาหารือกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย สนับสนุน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จุดยืนนี้ไม่เปลี่ยน ส่วนเรื่องประธานสภาฯ เป็นคนละกรณีกัน ซึ่งไม่มีใน MOU ทั้งนี้ นายประเสริฐ ย้ำว่า เพื่อไทย ถอยให้กับพรรคก้าวไกลพอสมควรแล้ว เพราะ 10 เสียง เป็นคะแนนปาร์ตีลิสต์ที่ต่างกันเท่านั้น ที่จริงหากพรรคก้าวไกล ได้รับการเลือกตั้ง สส.เกินครึ่งหนึ่ง คือ 250 ปัญหานี้ไม่เกิดแน่นอน แต่ครั้งนี้เป็นฝั่งพรรคประชาธิปไตยเหมือนกัน และไม่มีพรรคใดที่ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกัน ทางพรรคก้าวไกลได้นายกฯ เบอร์ 1 ไปแล้ว ถ้าเพื่อไทยจะมีโอกาสทำงานตรงนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีชื่อของ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ กล่าวว่า นายแพทย์ชลน่าน มีความเหมาะสม มีประสบการณ์ในสภาเป็น สส. 6 สมัย และเก่งเรื่องข้อบังคับ รวมถึงยังเป็นหัวหน้าพรรคด้วย ซึ่งหัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นนายกฯ และหัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นประธานสภาฯ ก็ไม่เลว