สวนสัตว์เชียงใหม่ แถลง เปิดผลชันสูตร ‘หลินฮุ่ย’
วันที่ 23 พ.ค. 2566 เวลา 16:54 น.
สวนสัตว์เชียงใหม่ เผยผลการชันสูตร จากผู้เชี่ยวชาญฝ่ายจีน และไทย ระบุสาเหตุการตาย ของแพนด้า "หลินฮุ่ย" มาจากโรคชรา ทำให้หลอดเลือดแดงเสื่อมสภาพ และเกิดการแข็งตัว นำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดในอวัยวะต่างๆ เป็นผลทำให้ตายลง วันนี้ (23 พ.ค. 66) โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยนายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ www.zoothailand.org ฉบับที่ 2 คำอธิบายจากคณะผู้เชี่ยวชาญฝ่ายจีนและฝ่ายไทย เรื่องสาเหตุการเสียชีวิตของหมีแพนด้าหลินฮุ่ย ระบุว่า หมีแพนด้าหลินฮุ่ยเป็นหมีแพนด้าเพศเมีย อายุ 22 ปี อาศัยอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้เสียชีวิตลงจากอาการป่วยเฉียบพลันเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 66 เวลา 02.00 น. (เวลาจีน) เวลาไทยประมาณ 01.10 น. หลังจากหมีแพนด้าหลินฮุ่ยได้เสียชีวิตลง ทางฝ่ายจีนได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยมีการเตรียมการอย่างเร่งด่วนและจัดสรรให้คณะผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน (CWCA) เดินทางมาประเทศไทยเพื่อสืบหาสาเหตุของการเสียชีวิตของหมีแพนด้าหลินฮุ่ย โดยมีผู้เชี่ยวชาญระหว่างฝ่ายจีนและฝ่ายไทยได้ร่วมมือกันผ่าร่างและชันสูตร ตลอดจนการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อจำนวน 50 กว่าตัว อย่างของหมีแพนด้าหลินฮุ่ย ผลการชันสูตรพบว่า หมีแพนด้าหลินฮุ่ยอยู่ในวัยชรา ทำให้หลอดเลือดแดงเสื่อมสภาพ และเกิดการแข็งตัว นำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดในอวัยวะต่างๆ เป็นผลทำให้เสียชีวิต สำหรับการที่มีเลือดกำเดาไหลนั้น มีสาเหตุจากการเกิดเนื้องอกในหลอดเลือดโพรงจมูก หลังจากที่คณะผู้เชี่ยวชาญฝ่ายจีนได้ประเมินการปฏิบัติงานด้านต่างๆ โดยละเอียด พบว่าสถานที่เลี้ยง วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ทีมพี่เลี้ยง ทีมสัตวแพทย์ มีการจัดการด้านโภชนาการอาหารและสุขอนามัยต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานเงื่อนไขของการบริหารจัดการเลี้ยงหมีแพนด้าและการควบคุมโรค ความร่วมมือวิจัยหมีแพนด้าของฝ่ายจีนและฝ่ายไทยได้ดำเนินการมาร่วม 20 ปี อาทิ การขยายพันธุ์หมีแพนด้าที่ใกล้สูญพันธุ์ การป้องกันควบคุมโรค ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สาธารณะของทั้งสองประเทศเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีผลสัมฤทธิ์ในทิศทางที่ดี มีส่วนทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศเกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากยิ่งขึ้น จากการเสียชีวิตของหมีแพนด้าหลินฮุ่ย ทำให้ทั้งสองประเทศมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในลำดับต่อไป ฝ่ายจีนและฝ่ายไทยจะร่วมกันดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป