ไม่ย้ายหน่วยเลือกตั้ง ชายคลั่งยิงปืนในชุมชน จ.ระยอง
วันที่ 14 พ.ค. 2566 เวลา 06:13 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวัง เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้าในบ้านพักกลางเมืองระยอง โดยยังไม่มีความจำเป็นต้องย้ายหน่วยเลือกตั้งภายในชุมชน เจ้าหน้าที่จะประเมินสถานการณ์ทุก ๆ ชั่วโมง กระทั่งช่วงเย็นวานนี้ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากบ้านได้แล้ว ผ่านไปเกือบ 48 ชั่วโมง กรณี นายภัทรพงศ์ หรือ บาส อายุ 36 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าภายในบ้านพักชุมชนตลาดเก่า กลางเมืองระยอง แต่การเจรจายังไม่เป็นผล ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านพัก อำเภอเมืองระยอง ซึ่งตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง และป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย จะยึดแนวทางการเจรจาเป็นหลัก เช้าวานนี้ ตำรวจได้นำโดรนขึ้นบินสังเกตปฏิกิริยาของนายบาส ที่ยังคงกบดานอยู่ภายในบ้านพักบนชั้นสอง ยังไม่พบว่ามีการกระทำที่รุนแรงใด ๆ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าระวังและเตรียมวางแผนการเจรจาอีกครั้ง พร้อมทั้งขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ขาย ให้งดการใช้พื้นที่จัดตลาดนัดถนนคนเดินวันเสาร์ ไปก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่ทั้งนี้จะยังไม่มีการย้ายหน่วยเลือกตั้งในชุมชน ยังคงเดินให้ประชาชนไปใช้สิทธิได้ตามเดิม ขณะเดียวกัน ตำรวจได้เชิญตัว พ่อของนายบาส มาพูดคุย ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมบอกว่า เมื่อวานนี้ นายบาส ได้ยิงปืนมาอีก 1 นัด ทำให้ยอดที่ยิงปืนรวมทั้งหมด 9 นัด และอาวุธปืนก็ยังคงคาดว่ามีกระบอกเดียว ตามที่เห็น แต่ข้อเท็จจริงจะมีเพิ่มหรือไม่ และกระสุนจะมีเท่าใดนั้น ยังประเมินไม่ได้ พร้อมกันนี้ยังแถลงยืนยันว่า นายบาส ไม่ใช่ครูฝึกยิงปืน และไม่ใช่อดีตทหาร โดยเมื่อวานนี้นายบาส ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กเป็นครั้งแรก โดยโพสต์ข้อความระบายว่า "คนแจ้งจับเสือก อ้างว่าพ่อแม่แจ้งจับ ทั้ง ๆ ที่พ่อแม่กุไม่ได้แจ้ง #เอาแต่ร่างไร้วิญญาณกุไปแล้วกัน" ปฏิบัติการตามยุทธวิถีของตำรวจดำเนินมาจนช่วงเวลา 18.00 น.เมื่อวาน พลตำรวจโท อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ได้ออกมาเปิดเผยว่าสามารถควบคุมตัว นายภัทรพงศ์ หรือ บาส อายุ 36 ปี ได้แล้ว เมื่อนำตัวมาถึงที่โรงพักก็ตรวจปัสสาวะผลปรากฏเป็นสีม่วง แต่จากการตรวจสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบว่ามีการใช้สารเสพติดในปริมาณที่อ่อน อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่เหตุสมควร เอาไว้ก่อน ทั้งนี้ พลตำรวจโทอิทธิพล ยังเผยถึงแผนปฏิบัติการตลอด 2 วันที่ผ่านมาที่ได้รับความร่วมมือจากพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน และผู้บังคับบัญชาที่ผู้ก่อเหตุ เคยทำงานด้วยช่วยเกลี้ยกล่อม กระทั่งใช้มาตรการบีบผู้ก่อเหตุ โดยการตัดน้ำตัดไฟ ไม่ให้ความช่วยเหลือใด ๆ ทำให้ผู้ก่อเหตุใจอ่อน เริ่มพูดขอบุหรี่ ขอน้ำ และในที่สุดยอมโยนอาวุธปืนให้ตำรวจ ก่อนออกจากบ้านเดินมามอบตัว สำหรับมูลเหตุที่ทำให้ นายบาส ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากความเครียดปัญหาส่วนตัว ประกอบกับเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในลิสต์หมายที่ตำรวจต้องเข้าตรวจค้นเกี่ยวกับอาวุธปืน หลังที่ผ่านมา นายบาส มักโพสต์อาวุธปืนบ่อยครั้ง