เร่งตามตัวอีก 1 แก๊ง กรรโชกทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน

วันที่ 24 เม.ย. 2566 เวลา 11:11 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีที่คนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และกองปราบฯ บุกบ้านไปกรรโชกทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนกับครอบครัว อ้างว่าทำผิดฐานยักยอก ผู้ต้องหาชุดแรกเหลือ 1 คน ที่กำลังเร่งติดตามจับกุม และยังมีอีกอย่างน้อย 3 คน ที่จะออกหมายจับเร็ว ๆ นี้ ความคืบหน้าการจับกุมแก๊งคนร้ายที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. และตำรวจกองบังคับการปราบปราม ใช้หมายค้นปลอมไปตรวจค้นบ้านนักธุรกิจชาวจีนที่อาศัยอยู่กับครอบครัว อ้างว่า กระทำความผิดฐาน "ยักยอก" ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะร่วมกันกรรโชกทรัพย์เป็นเงิน 3,100,000 บาทไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุมาได้ 3 คน จาก 4 คน พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1 คน ขณะนี้มีเบาะแสแล้ว ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัว ส่วนการสอบสวนขยายผลทำให้ทราบว่าขบวนการนี้ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีกอย่างน้อย 3 คน คือ คนดูต้นทาง และคนที่อยู่ร่วมในแผนก่อเหตุแต่ไม่ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิด ซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานไปขอศาลออกหมายจับเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ในการจับกุมตัวผู้ต้องหา 4 คนแรก 1 ใน 4 มีแหล่งกบดานอยู่ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ตำรวจประเมินแล้วเห็นว่าจับกุมพร้อมกันทั้งหมดไม่ได้ เพราะเสี่ยงต่อการไหวตัวหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน จึงเปลี่ยนแผนบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 คน จากนั้นจึงขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องที่เหลือ ส่วนความคืบหน้ากรณีชายชาวจีน 2 คน ก่อเหตุล่อลวงหญิงชาวจีน ไปเจอที่ห้องพักคอนโดมิเนียมย่านพระราม 9 แล้วจับมัดพันธนาการ ขู่บังคับเอาทรัพย์สิน ซึ่งได้เงินสกุลหยวนไป 400,000 กว่าบาท รวมกับโทรศัพท์ไอโฟนอีก 1 เครื่อง รวมมูลค่าทรัพย์สินเกือบ 500,000 บาท และเบาะแสสุดท้าย พบว่าได้หลบหนีไปที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังศาลออกหมายจับ นายชอเว่ย และ นายเจา จีมิ้งค์ ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ ก็ได้ประสานกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ประสานประเทศปลายทางช่วยติดตามจับกุมตัวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัว ส่วนเรื่องการออกหมายแดงอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ