ปส.บุกทลาย แหล่งผลิตเครื่องดื่ม 4x100 พบเงินหมุนเวียน 1 ปีมียอดเงินมากถึง 10 ล้านบาท

วันที่ 20 เม.ย. 2566 เวลา 16:26 น.

ผู้ปกครองสุดทน โร่แจ้งตำรวจ หลังลูกหลาน ติด 4x100 ล่าสุด ปส.บุกทลาย แหล่งผลิตเครื่องดื่ม 4x100 พบยาควบคุมทางการแพทย์นับหมื่นขวด นอกจากนี้ยังมีดอกกัญชา ใบกระท่อม และสารเสพติดอีก พบเงินหมุนเวียน 1 ปีมียอดเงินมากถึง 10 ล้านบาท ตำรวจชุดปราบปราบยาเสพติด ชุดเฉพาะกิจ ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กว่า 10 นาย บุกทลายแหล่งผลิตเครื่องดื่ม 4x 100 ซึ่งมีส่วนผสมของดอกกัญชา  ใบกระท่อม  ยาแก้ไอ ยาอันตรายที่ทางการแพทย์ระบุเป็นยาควบคุมไม่ต่ำกว่า 50 ลัง ภายในร้านแห่งหนึ่งใกล้สะพานข้ามคลอง ถนน ช.พัน111 โดยเข้าตรวจค้นภายในร้านดังกล่าว พบกลุ่มวัยรุ่นกำลังนั่งต้มน้ำกระท่อม และผสมยาตามสูตร เตรียมบรรจุขวด ทั้งน้ำกระท่อม เครื่องดื่ม 4คูณ 100 กันอย่างเต็มที่เพื่อให้ทันออเดอร์ที่สั่งเข้ามา  ก่อนถูกรวบตัวและยึดของกลางไว้ทั้งหมด  ขณะเดียวกันกำลังตำรวจชุด ปส.อีก 5 นาย บุกเข้าทลายแหล่งผลิตที่บริเวณหน้า ม.ราชภัฎ บริเวณบ้านถ่าน  ได้พร้อมของกลาง ก่อนนำมาสอบสวนขยายผลที่  กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ โดยมี พล.ต.ต.ชาญชัย  พงษ์พิชิตกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์  พร้อมด้วย  พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์   รองผู้บังคับการตำรวจซึ่งกำกับดูแลงานด้านยาเสพติด  เข้ามาติดตามการจับกุม พบว่าเป็นขบวนการรายใหญ่ที่มีแหล่งผลิต มีการเช่าหน้าร้านแบบ 3 คูหา จำหน่ายใบกระท่อม  เหมือนทั่วๆไป  แต่เบื้องหลัง กลับมีการจ้างกลุ่มวัยรุ่น เยาวชน มีคัดเลือกใบกระท่อม  ดอกกัญชา ให้ค่าจ่างวันละ 200 บาท   บางกลุ่มเป็นคนผลิตผสมสูตรยาเครื่องดื่ม 4คูณ100 เพื่อจัดเตรียมส่งจำหน่ายตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งมา โดยผู้บังคับการตำรวจถึงกับตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่รายงานถึงตัวเลขของกลุ่มแก๊งรายนี้ มียอดเงินจากการจำหน่ายเครื่องดื่มเหล่านี้ 1 ปีมียอดเงินมากถึง 10 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งจากการที่ผู้ปกครองเข้ามาร้องเรียน ถึงพฤติการณ์ของลูกหลานตนเอง พบว่าน่าจะไปดื่มเครืองดื่มอะไรบางอย่าง  ก่อนติดตามสะกดรอยตามจนไปพบว่าไปซื้อเครื่องดื่มบริเวณร้านดังกล่าว   ซึ่งพบว่าผู้ปกครองหลายคนก็ทุกข์ร้อนใจเรื่องนี้ ก่อนเข้าไปแจ้งให้ผู้การตำรวจทราบเพื่อทลายแก๊ง  ก่อนที่เยาวชนจะเสียคนไปมากกว่านี้ ซึ่งจากการจับกุมผ็ต้องหากว่า 10 ราย อายุตั้งแต่ 17-25 ปีทั้งชายและหญิงนำตัวมาสอบปากคำและขยายผลที่ห้องปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด  โดยทราบชื่อหัวหน้าแก๊งคือนายกฤษฎา ซึ่งเป็นหัวโจก สั่งการให้ลูกน้องเร่งผลิตยา โดยพบว่ายาแก้ไอจำนวนมาก ยังมียาควบคุมอีกหลายชนิดที่เป็นยาควบคุมที่การแพทย์ เป็นยาอันตรายอีกด้วย หากดื่มไปจำนวนมากอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว โดยตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาทำการคัดแยกยาอักครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ได้มีคำสั่งให้ปราบปรามแหล่งผลิตในทุกอำเภอ โดยให้มีการจับกุมอย่างชัดเจน เนื่องจากใกล้ช่วงจะเปิดเทอมแล้ว  ห่วงอนาคตของนักเรียนและเยาวชน หากไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อหา ตามาตรา 101  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท(ตาม พรบ.ยา 2510)  รวมถึงผลิตและจำหน่ายให้กับเยวาชนอายุต่ำกว่า 18 ปี