ปอศ. ทลายแก๊งเงินกู้ออนไลน์ รีดดอกโหด พบเงินสะพัด 1 พันล้านบาท

วันที่ 28 มี.ค. 2566 เวลา 10:02 น.

ปอศ. ทลาย 2 แก๊งเงินกู้ออนไลน์ Burin-credit (บุรินทร์ เครดิต)” Memoney-Credit รีดดอกโหด รวบ 4 ตัวการหลัก ได้พร้อมลูกสมุนทวงหนี้ พบเงินสะพัด 1 พันล้านบาท ผู้ต้องหารับสารภาพทำจริง แต่ไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้ วันนี้ (28 มี.ค.66) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ต.วรวุฒิ คงรักษา พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ มอญรัตท พ.ต.ต.สุทธิพงษ์ จันทพันธ์ พ.ต.ต.ฉัตรดนัย ทองคลอด สว.กก.5 บก.ปอศ. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ปอศ. เข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านพัก และสำนักงานในกรุงเทพฯ จ.พิจิตร, สมุทรปราการ, จันทบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการเงินกู้ออนไลน์เถื่อน 2 เครือข่าย คือ “Burin-credit (บุรินทร์ เครดิต)” และ Memoney-Credit สินเชื่อเพื่อธุรกิจ โดยสามารถจับกุม 4 ตัวการหลักของขบวนการดังกล่าว คือ นายทศพล อายุ 29 ปี, นายยุทธนา อายุ 27 ปี, นายศักดิ์รินทร์ อายุ 29 ปี และ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 21 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 893-896/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.66 ในข้อหาร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะ การข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น นอกจากนี้ ยังจับกุมกลุ่มพนักงานรับจ้างทวงหนี้ของเครือข่ายดังกล่าวในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต” อีก 7 คน รวมถึงตรวจยึดของกลาง อาทิ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 13 เครื่อง โทรศัพท์ 38 เครื่อง ซิมการ์ดประมาณ 50 อัน เช็คค้ำประกันของลูกหนี้ 22 ใบ มูลค่ารวม 7,990,000 บาท และรถยนต์ของลูกหนี้ 4 คัน พ.ต.อ.เมฆพิศาล เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการเปิดเว็บไซต์ www.burin-credit.com เพื่อชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยเน้นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมายได้ ซึ่งขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อของเว็บไซต์ดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐานยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน ในกรณีที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจฯ กลุ่มคนร้ายจะไปสำรวจกิจการเพื่อประกอบการพิจารณา เมื่อสินเชื่ออนุมัติแล้วกลุ่มคนร้ายจะโอนเงินไปให้ผู้กู้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้งของธนาคารไปยังบัญชีธนาคารของผู้กู้ โดยกลุ่มคนร้ายจะหักยอดเงินกู้เป็นดอกเบี้ยงวดแรกไว้ก่อน หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ ก็จะใช้วิธีการโทรศัพท์ข่มขู่ และไประรานผู้กู้ถึงที่บ้าน ที่ทำงาน หรือสถานประกอบการ ซึ่งการกระทำของกลุ่มคนร้ายเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 1 ปีกว่า 1,000 ล้านบาท ในส่วนของนายศักดิ์รินทร์ ได้แยกตัวไปเปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า Memoney-credit เพื่อปล่อยเงินกู้ออนไลน์ในลักษณะเดียวกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ย รายวันในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อวัน หรือ ร้อยละ 547.5 ต่อปี จนกว่าจะมีเงินต้นมาชำระคืน หากขอกู้ในวงเงินที่สูงจะให้ผู้กู้ออกเช็คค้ำประกันเงินกู้ไว้ หรือหากมีทรัพย์สินอื่นๆ เช่น รถยนต์ จะให้นำมาจอดไว้เพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ จนนำมาสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดได้ดังกล่าว ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้แต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป