อดีตข้าราชการเมากร่าง ควงปืนบุกอาละวาดกลางร้านค้า
วันที่ 25 มี.ค. 2566 เวลา 18:18 น.
อดีตข้าราชการเมากร่าง ควงปืนบุกอาละวาดกลางร้านค้าในหมู่บ้านที่มีทั้งเด็กและคนแก่อยู่ หลังเกิดเหตุส่งญาติมาเจรจาอ้างเป็นคนสติไม่ค่อยดี เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (25 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หลังจากได้รับการร้องขอความช่วยเหลือและได้รับคลิปจากชาวบ้าน บ้านโคกซวก หมู่ที่ 3 ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ที่มีเหตุการณ์อดีตข้าราชการที่เกษียณอายุแล้วควงปืนสั้นเข้าไปข่มขู่ชาวบ้านที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน เหตุเกิดเวลาประมาณ 16.30 น.ของวันที่ 23 มีนาคม 66 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิด 3 ตัวสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน หลังเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ครรชิต บทมาตย์ สอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีเชียงใหม่ ไว้แล้ว นางกุหลาบ อายุ 69 ปี เจ้าของร้านค้า เล่าว่า ผู้ก่อเหตุได้ถือปืนเข้ามาในร้าน แล้วข่มขู่ว่า “มึงจะเอาอะไรกับกู มึงอยากตายไหม” ตนจึงได้เข้าไปไหว้ขอร้อง ซึ่งตนกับผู้ก่อเหตุไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อนและไม่เคยมาที่บ้านสักครั้ง ตนเคยเห็นผู้ก่อเหตุตั้งแต่สมัยที่ผู้ก่อเหตุยังเป็นเด็กอยู่ หลังจากที่โตแล้วผู้ก่อเหตุไปทำงานที่กรุงเทพฯ ตนก็ไม่เคยเห็นอีกเลย จนผู้ก่อเหตุเกษียณอายุแล้วกลับมาอยู่บ้าน ตอนที่เข้ามาในร้านมีอาการเมา ถือปืนสั้นเข้ามาด้วย 1 กระบอก เป็นปืนจริง มีการขึ้นลำกล้องไว้ตลอด แต่ไม่ได้ยิง หลังเกิดเหตุ มีญาติของผู้ก่อเหตุมาเจรจาเรื่องค่าทำขวัญ แต่ลูกสาวของตนไม่ยอมอยากให้ผู้ก่อเหตุมาพบด้วย ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรและไม่อยากจะมีศรัตรู เนื่องจากกลัว เพราะที่บ้านมีแต่คนสูงอายุ อยากให้เจ้าหน้าที่ยึดอาวุธของผู้ก่อเหตุไปด้วย เนื่องจากกลัวว่าหากมีการคลุ้มคลั่งอีก ก็กลัวว่าจะมาฆ่าตน เพื่อแก้แค้นในภายหลัง ด้านเจ้าหน้าที่ก็รับปากว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่ตนก็กลัวประกอบกับพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีไฟส่องสว่างทำให้ค่อนข้างมืด ขณะที่ลูกสาวนางกุหลาบ บอกว่า วันที่เกิดเหตุนั้นเร็วมาก ทางครอบครัวของตนไม่ได้ตั้งตัวสักคนเลย ถ้าวันนั้นมีการลั่นไกปืนขึ้นมาจากความเมาและความใจร้อนของผู้ก่อเหตุ หากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น หน่วยงานไหนจะเข้ามารับผิดชอบ จุดที่เกิดเหตุก็เป็นศูนย์รวมของชุมชนเพราะเป็นร้านค้า คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอาจจะมาเสี่ยงชีวิตด้วย อีกอย่างหนึ่งทางครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มาเจรจากับครอบครัวตนว่า ไม่ให้ไปถือคนที่ก่อเหตุเพราะเป็นคนสติไม่ค่อยดี สติไม่ค่อยดีแล้วทำแบบนี้เหรอ เวลาเมาต้องไปอาละวาดหาเรื่องคนอื่น แถมมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองถึง 3 กระบอก วันก่อเหตุเห็นที่ถืออยู่ในมือ 1 กระบอก ในกระเป๋าที่สะพายอีก 1 กระบอก และได้ยินว่าอยู่ที่ภายในรถอีก 1 กระบอก จึงอยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ที่มีอำนาจเข้ามาปกป้องครอบครัวของตน และให้เข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์ที่ขณะนี้ยังไม่ได้เลวร้าย ไม่ว่าจะเกิดกับครอบครัวใคร ก็คงไม่มีใครอยากให้เกิด ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเชียงใหม่ ก็จะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ต่อไป