ประชุมติดตามคืบหน้าเร่งสรุปคดี สารวัตรกานต์

วันที่ 20 มี.ค. 2566 เวลา 11:41 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องที่ญาติกว่า 20 คน เรียกร้อง 5 ข้อ พร้อมขีดเส้นตาย 3 วัน ตำรวจต้องชี้แจงเหตุใช้กำลังกดดันจับกุม "สารวัตรกานต์" ที่มีอาการคลุ้มคลั่งยิงปืนในบ้าน วันนี้ตำรวจก็มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี เพื่อเตรียมสรุปประเด็นต่าง ๆ ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัย โดยข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ที่ นายลิขิต แสงบุญ อายุ 58 ปี พี่ชายคนโตพร้อมด้วยพ่อ แม่ และญาติ ๆ ของ พันตำรวจโทกิตติกานต์ หรือ "สารวัตรกานต์" ตำรวจที่ป่วยทางจิตเวชและมีอาการคลุ้มคลั่งยิงปืนในบ้านตัวเอง เรียกร้องให้ชี้แจง คือ ให้มีการสอบปากคำตำรวจชุดจับกุมทั้งหมดว่าใครได้รับมอบหมายให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง, อยากให้พนักงานอัยการเข้ามาร่วมสอบสวนข้อเท็จจริงด้วย, ให้สอบปากคำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานว่าตรวจยึดสิ่งใดไปจากที่เกิดเหตุ, ให้สอบสวนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ หรือคนที่ตัดสินใจสั่งการบุกจับกุม และ ขอให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 22 มีนาคมนี้ พันตำรวจเอกกรธวัช รองผู้บังคับการศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิต ยอมรับว่า ให้คำตอบเรื่องการเร่งรัดคดีนี้ไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะพนักงานสอบสวน และตนเองก็ต้องไปให้ปากคำในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องนิสัย พฤติกรรมส่วนตัวของ สารวัตรกานต์ ซึ่งยืนยันได้ว่า สารวัตกานต์ เป็นคนอัธยาศัยดี ร่าเริง พูดจาเฮฮา อีกทั้งหน่วยงานของตนเองมีกำลังพลแค่ 30 นาย จึงจับสังเกตเห็นความผิดปกติ จนได้นำไปขอคำปรึกษากับโรงพยาบาลตำรวจ และเตรียมพาตัวไปบำบัดรักษา ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนประเด็นที่มีการแชร์คลิปที่ สารวัตรกานต์ ตะโกนพูดว่า มีตำรวจไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีตำรวจในสังกัดเกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดจะนำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบในวันพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) อย่างไรก็ตามที่ สน.สายไหม พลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกประชุมส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดสรุปคดีนี้ ขณะเดียวกันช่วงเที่ยงวันนี้ (20 มี.ค.) ก็จะมีทนายความที่ญาติของ สารวัตรกานต์ ให้ไปเร่งรัดเรื่องผลการชันสูตรการเสียชีวิต กับตำรวจ สน.สายไหม ด้วย